เสียงไอ ดังอย่างต่อเนื่องข้างเตียงฉัน ปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมา หลังจากที่หลับได้ไม่นาน ในคืนแรกคู่กับสามีฉัน
เมื่อลืมตาขึ้นมา ฉันก็เห็นเขานั่งอยู่บนซาญาดะห์ พร้อมกับอาการไอ ไม่หยุด ฉันดูแล้วรู้สึกผิดปกติอย่างยิ่ง อาการที่เกิดขึ้นนี้คงไม่ไช่เล็กน้อย ฉันเห็นเขาเอามือบีบที่หน้าอก
ฉันลุกขึ้นมา ลงจากเตียงแล้วเข้าไปใกล้เขา“บังเป็นอะไรนิ” ฉันถามเขา และรู้สึกกังวลมาก เกรงว่าเขาจะมีโรคอะไร ที่ฉันยังไม่รู้
“บังไม่ได้เป็นอะไรมาก บางทีอาจจะเป็นเพราะอากาศหนาวไปก็ได้” เขาตอบฉันเราเงียบชั่วเวลาหนึ่ง
แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า “อานีไปอาบน้ำเถิด พ่อแม่ และน้องๆ กำลังรอละหมาดพร้อมกับเราข้างนอก”เขาบอกกับฉันแล้วยิ้ม พร้อมกับเพ่งมองมาที่ตัวฉัน ทำเอาฉันต้องอาย และหลุดคำพูดออกไปว่า “ทะลึ่งจริงๆ เลยบังนิ”
ในตอนที่ฉันยังอยู่ในห้องน้ำ ก็ยังได้ยินเสียงไอจากเขาอยู่
ในที่ละหมาดของบ้าน คุณพ่อฉันขยั้นขยอให้เขาเป็นอีมามนำการละหมาดอีกต่อไป แม้เขาจะบ่ายเบี่ยงโดยอ้างถึงสุขภาพก็ตาม แต่พ่อฉันก็ยืนกรานให้เขานำละหมาดให้ได้
สุดท้ายเขาก็ต้องยอมตามพ่อฉันในตอนละหมาด ซึ่งเป็นไปอย่างไม่ค่อยสมบูรณ์นัก เพราะเขายังไอไม่หยุด ทำให้การอ่านซูเราะห์ขาดหายไปบ้าง บางครั้งก็ต้องเริ่มอ่านใหม่
ฉันเริ่มกังวลมากขึ้นละหมาดเสร็จเขาอ่านดุอา ถึงแม้เสียงเขาตอนนี้จะเบามาก แต่ฉันก็พอได้ยิน ฉันดูหน้าเขาค่อนข้างจะซีด ฉันถามถึงอาการของเขาอีกครั้ง แต่เขาก็ยังยืนยันไม่ได้เป็นอะไรมาก โดยอ้างถึงอากาศที่ค่อนข้างจะหนาวมากเมื่อคืนนี้
คุณพ่อและแม่ฉันก็ดูกังวลไม่ต่างกัน แม่บอกให้ฉันเอายาแก้ไอจากตู้ยาในบ้านมาให้เขาฉันป้อนยาน้ำสำหรับแก้ไอให้เขา และให้เขาดื่มน้ำตาม เขากล่าวขอบคุณ แล้วฉันก็บอกเขาให้เข้าห้องเพื่อพักผ่อน
แต่ก่อนที่เขาจะเอนกายนอน เขาพูดกับฉันว่า “บังขอมาอัฟด้วย ที่สร้างภาระให้กับอานี”
“ทำไมบังพูดเช่นนั้น อานีไม่ได้ลำบากอะไรเลย แม้ซักนิดเดียว” ฉันตอบเขา เขาตอบฉันว่า “บังรู้ว่า อานีต้องลำบากใจไม่น้อยกับอาการของบังที่ต้องเป็นอย่างนี้ ที่จริงแล้ว สำหรับวันแรกนี้ บังต้องทำให้อานีมีความสุขมากกว่านี้ แต่เมื่อสุขภาพไม่เอื้ออำนวย บังต้องขอโทษด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกบัง อานีในฐานะภรรยา อานีต้องพร้อมเสมอสำหรับทุกอย่างจากบัง” ฉันตอบเพื่อเอาใจเขา แม้ว่าในส่วนลึกของใจฉัน มีความรู้สึกที่วิตกกังวลอย่างยิ่งเขาคงเห็นถึงความกังวลของฉัน
เขาพูดว่า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น บังคนนี้รักอานีเสมอ อานีคือหนึ่งเดียวในใจบัง”
ฉันบอกเขาอีกว่า “นอนเถิดบัง ไม่ต้องกังวลถึงอานีหรอก” แล้วฉันก็ดึงผ้าเอามาห่มตัวเขา และก้มลงจูบที่หน้าผากฉันดูเขาทำท่าจะเหนื่อยเอามากๆ ก่อนที่เขาจะหลับ ฉันได้ยินเขาพูดพึมพำไม่ค่อยจะได้ความนัก แต่ที่ชัดเจนก็คือ ให้ฉันมาอัฟให้กับเขา
ฉันมองหน้าสามีอย่างเต็มตาเป็นครั้งแรก ในตอนที่เขาหลับ ในท่าที่สงบและเรียบร้อย ฉันรู้สึกมีความสุขมากที่ได้มองไปยังเขา หน้าตาของเขาอยู่ในขั้นดีมาก ๆ ใบหน้าที่ผ่องใส ทั้งหนวดและเคราถูกดูแลอย่างดี อารมณ์ของลูกผู้หญิงเช่นฉัน บอกกับฉันว่า ประทับใจจริงๆ และรู้สึกชอบเขามากๆ
ก่อนที่จะลุกออกจากเตียง ฉันไม่ลืมที่จะดุอาอต่ออัลเลาะห์ ขอให้ชีวิตครอบครัวฉัน จงมั่นคง และยั่งยืนตลอดชั่วชีวิต
แต่ตักดีรจากอัลเลาะห์ ไม่มีใครสามารถฝืนได้ กอฎอและกอดัรจากพระองค์ คือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนจะต้องยอมรับ ทั้งเกิด ตาย ริสกี ดีและชั่ว ของแต่ละบุคคล เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วนับตั้งแต่เขาอยู่ในท้องของมารดาฉันในฐานะบ่าวของพระองค์ที่อ่อนแอ จะต้องยอมรับกับสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วนี้ ด้วยไจที่สงบ และเต็มไปด้วยความภักดีต่ออัลเลาะห์ อย่างไม่คลอนแคลน
ในตอนที่ฉันปลุกให้เขาตื่นขึ้นมาเพื่อทานอาหารเช้าร่วมกับทุกคนในครอบครัว หลายครั้งที่ฉันเรียกชื่อเขา แต่เขาเงียบ ฉันจับและเขย่าตัวเขาเบาๆ ก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ฉันเขย่าแรงขึ้น เขาก็เงียบ ฉันจับมือเขา เย็นเชียบ จับชีพจร ก็เงียบ ...
“ม๊ะ” ฉันเรียกแม่สุดเสียง แล้วฉันก็ร้องให้ ด้วยใจที่รวดร้าวสุดที่จะควบคุมตนเองไว้ได้ ทุกคนเข้ามาในห้อง และมองไปยังเขา กับร่างกายที่วิญญาณถูกปลิดปลิวไปแล้ว
ใครจะไปคาดคิดว่า วันแรกที่ฉันได้อยู่กับสามีที่เพิ่งจะได้รู้จัก จะเป็นวันสุดท้ายด้วยฉันได้รู้จักเขาเพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่เขาได้จากฉันไปตลอดชีวิตแล้ว มิน่าล่ะเขาถึงได้ขอมาอัฟจากฉันหลายครั้ง
No comments:
Post a Comment