Monday, July 30, 2007

บิดันดารีของฉัน



บีดันดารีของฉัน

ในทุก ๆ วันผมรู้สึกหัวใจฟองโตและเต็มเปี่ยมด้วยความรัก ห่วงหา สุดที่จะบรรยายได้ ในทุกเช้าผมได้ยินเสียงเธอที่อ่อนโยน รัดรึงใจ ผมรู้สึกสุขใจอย่างยิ่ง ภายใต้สายใยแห่งรัก และความใส่ใจจากเธอ

เธอไม่เคยทำอะไรให้ต้องกระทบกับความรู้สึกของผม แม้ว่าบ่อยครั้งไปที่โดยไม่ตั้งใจ ผมทำให้เธอรู้สึกเสียใจ แต่เธอก็ไม่เคยแสดงอาการไม่พอใจ ทั้งทางคำพูดหรือแม้แต่การแสดงออกทางสีหน้า หากแต่ใบหน้าเธอยังคงยิ้ม นัยตาที่ฉายแววแห่งความห่วงหา กริยาอาการบ่งบอกถึงความรักที่แสนจะลึกล้ำสุดที่จะพรรณนา ใด ๆ ได้

เธอคือใคร...?

จะเป็นใครอีกเล่า หากไม่ไช่หญิงผู้เป็นภรรยา....

เธอคือผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ได้มอบความรัก ความภักดี และมอบทั้งชีวิตให้กับผม

เธอคือผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ได้น้อมรับในความอ่อนแอและความบกพร่องในตัวผม

เธอคือผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เกิดมาเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติของความเป็นลูกผู้หญิง ที่เปี่ยมด้วยศรัทธา

ชีวิตเธอนบน้อมแด่พระผู้อภิบาล เธอคือภรรยาของผม ที่ได้แต่งงานมากว่า 3 ปีแล้ว เราแต่งงานในช่วงอายุที่ยังน้อยมาก ผมแก่กว่าเธอ 3 ปี ในเวลาที่ผมยังเรียนในมหาวิทยาลัย ซึ่งก็เช่นเดียวกับเธอ

ก่อนแต่งงานเราต่างวิตกกังวล ว่าจะอยู่อย่างไร ในขณะที่เราต่างก็กำลังเรียนอยู่ แต่ภายหลังการอิสตีคอเราะห์ และความตั้งใจจริงของเราทั้งสองฝ่าย อัลเลาะห์ย่อมให้ทางสว่างแก่บ่าวที่ภักดีต่อพระองค์เสมอ

แต่ภายหลังการแต่งงาน สิ่งที่ผมกังวลในครั้งก่อนก็ได้มลายหายไปสิ้น เธอไม่ได้เป็นภาระใด ๆ หรือเป็นอุปสรรคต่อการเรียนเลยแม้ซักนิด หากแต่ผมยิ่งรู้สึกว่าชีวิตนี้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ชีวิตเต็มไปด้วยความหวัง มีความหมาย และมีกำลังใจในการก้าวเดินไปสู่อนาคตอันสดใสคู่กับเธอผม

ผมได้พบกับความสงบทางใจที่เฝ้ามองหามาอย่างเนิ่นนาน ได้พบกับความรักอันบริสุทธิ์ และเปี่ยมด้วยพลังได้รู้ถึงคุณค่าของหัวใจที่ภักดี มุ่งนบน้อมต่อพระผู้อภิบาลได้มีความสุข ภายใต้อีบาดะห์ที่มั่นคง