Wednesday, August 30, 2006

เลือด

เลือดแต่ละกรุ๊ปกับการเลือกทานอาหาร..
กรุ๊ป A.. คนที่เลือดกรุ๊ป A จะอ่อนไหวต่อโรคมะเร็งมากกว่า หมู่อื่นๆ ควรลดหรือละเว้น นม.เนื่องจากแอนติเจนที่อยู่ในเซลล์ของเลือดกรุ๊ป A ควรหันมารับประทานกันเพิ่มขึ้นก็คือ พวกผักใบ เขียว ใบเหลือง
รวมทั้งธัญพืช และถั่วต่างๆ

กรุ๊ป B..
พวกที่อยู่ในกลุ่มเลือดกรุ๊ป B ถือว่าเป็นเลือดที่ถือ กำเนิดขึ้นมาเป็นอันดับสามของมนุษย์ การดื่มนม และรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ ทำจากนม โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าท้องไส้ จะปั่นป่วน หรือท้องเฟ้อเรอเหม็น เปรี้ยว อย่างคนกรุ๊ปเลือด A นอกจากนี้ อาหารพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ ก็ล้วนแต่มีประโยชน์ ต่อร่างกายทั้งนั้นแต่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง คือ เนื้อไก่

กรุ๊ป O..
ถือว่าเป็นเลือดกรุ๊ปแรกของมนุษย์เราเลยก็ว่า ได้ ดังนั้นคนที่มีเลือดกรุ๊ป O จะมีสุขภาพแข็งแรงดี เมื่อกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เป็ด ไก่ และปลา แล้วก็ออกกำลังกายหนักๆ เช่นเต้าเอโรบิค. .คนที่มีเลือดกรุ๊ป O มีแนวโน้มที่ จะเป็นโรคแผลเน่าเปื่อย

สาระสุขภาพ (3)

อาหารอันตรายเมื่อท้องว่าง

คุณทราบไหมว่าเมื่อท้องของคุณว่างแล้วคุณรับประทานอาหารเข้าไป อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคุณได้ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะรับประทานอาหาร ควรเลือกชนิดของอาหารเสียก่อน อาหารที่ไม่ควรรับประทาน ขณะท้องว่างมีชนิดใดบ้าง มีบางชนิดที่เราแทบไม่เชื่อเลยล่ะ

กล้วย.. เพราะกล้วยอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม การรับประทานกล้วย ขณะท้องว่าง จะทำให้ปริมาณธาตุแมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้น ทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมไป เป็นการยับยั้ง การทำงานของหลอดเลือดหัวใจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างยิ่ง

กระเทียม.. เพราะจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหาร ได้รับการกระตุ้นเกิด โรคกระเพาะอาหารอักเสบอย่างรุนแรง

ผัก.. การรับประทานผักอย่างเดียวขณะท้องว่าง จะทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการผิดปรกติ นอกจากนั้น ยังไม่ควรอาบน้ำ และออกกำลังกายด้วยเช่นกัน เพราะการอาบน้ำและการออกกำลังกาย ในขณะที่ท้องว่าง จะทำให้เกิดอาการช็อก เนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย

นมและนมถั่วเหลือง.. แม้ว่านมถั่วเหลืองจะอุดมไปด้วยโปรตีน แต่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อกระเพาะอาหาร มีสารอาหารประเภทแป้งอยู่ด้วย

น้ำตาลหรืออาหารหวาน... ไม่ควรรับประทานอาหารหวาน หรือน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ช็อกโกแลต เพราะหากรับประทานขณะท้องว่าง จะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาลส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิด
และลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไต

ชา...ที่แก่เกินไป ช าทำให้กรดเกลือในน้ำย่อย ในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การทำงาน ของระบบย่อยอาหารลดลง และเกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะ มือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบ

ลูกพลับ.. ไม่ควรรับประทานลูกพลับในขณะที่ท้องว่าง เพราะกระเพาะอาหารจะหลั่งกรดเกลือออกมามาก หากไปรวมตัวกับยาง และสารแขวนลอยในลูกพลับแล้วจะทำให้เจ็บหน้าอก คลื่นไส้ และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร



ไอศกรีม อาหารขยะ
ไอศกรีมบางยี่ห้อ บางผู้ผลิต ใช้ไขมันที่เหลือจากโรงฆ่าสัตว์ แทน และได้ใส่ส่วนผสมสังเคราะห์ จากสารเคมีต่าง ๆ ดังนี้
1. ไดอิธิลกลูคอล ( diethyl glucol )..สารเคมีราคาถูก ใช้ตีไขมัน ให้กระจาย แทนการใช้ ่ไข่ เป็นสารกันเยือกแข็ง ที่ใช้กันน้ำแข็ง ( anti freeze) และผสมในน้ำยากัดสี
2. อัลดีไฮด์ - ซี71 ( aldehyde-C71 ).. ใช้สร้างกลิ่น เชอร์รี่ ให้ไอศกรีมเป็นของเหลวติดไฟง่าย และยังนำไปใช้ทำสีอะนิลีน พลาสติกและยาง
3. ไปเปอร์โอรัล ( piperoral )..ใช้แทนวานิลลา เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าเหาและหมัด
4. อิธิลอะซีเตท (ethyl acetate ).. ใช้สร้างกลิ่นรสสับปะรด ใช้เป็นตัวทำความสะอาดหนังและผ้าทอ กลิ่นของสารเคมีตัวนี้ ทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง ตับ และหัวใจผิดปกติ
5. บิวธีรัลดีไฮด์ ( butyraldehyde) ใช้สร้างกลิ่นรสเมล็ดในผล ไม้เปลือกแข็ง เป็นสารประกอบสำคัญในกาวยาง
6. แอนนิล อะซีเตท( anyle acetate) ใช้สร้างกลิ่นรสกล้วยหอม เป็นสารทำลายใช้ล้างไขมัน
7. เบนซิล อะซีเตท(benzyle acetate) ใช้สร้างกลิ่นและรสสตรอเบอร์รี่ เป็นสารละลายไนเตรทเวลาเกิดความอยากอยากให้คิดถึงสารเคมีเหล่านี้ ทั้งสารกันเยือกแข็ง ตัวทำละลายน้ำมัน น้ำยาลอกสี ยาฆ่าเหา ยาฆ่าหมัด บางยี่ห้อมีตัวนั้น บ้างมี ตัวนี้ ไมใช ่ว่าทุกยี่ห้อ จะมีหมด ทุกตัว นะครับ นอกจากนี้สารที่ใช้ทำความหวานก็คือ แซคคาริน หรือน้ำตาลเทียม ทั้งมีสารเติมสีเติมกลิ่น ซึ่งเหล่านี้ล้วนพิสูจน์แล้วว่า มีส่วนสนับสนุนทำให้เกิดมะเร็งได้ ไอศกรีม อาหารขยะ เป็นสาเหตุโรคอาหารเป็นพิษ ถึง 98 เปอร์เซ็นต์
อย่าลืมนะครับ จะซื้ออะไรดูสักนิดเช่น

น้ำมันพืช.. มีสาร กันหืน BTH หรือเปล่า ซีอิ้ว น้ำปลา แมกก..ี้ มี สารกัน บูด (โซเดียมเบนโซเอท) หรือผงชูรส (โมโนโซเดียมกลูตาเมท) หรือไม่

ขนมปัง.. ขาวมีสารกันเสีย สารกันบูดไหม
หรืออาหารใดๆ.. ก็แล้วแต่ แวะอ่านดูฉลากสักนิด ว่า มีผงชูรส มีวัตถุกันเสีย เจือสีสังเคราะห์ แต่งกลิ่น แต่งรส หรือเปล่า แม้ อย.อนุญาตก็ตามเถอะ

ที่มา : http://www.rapidreply.net/cgi-bin/varpro/vartrack.cgi?t=mysuccess:23

สาระสุขภาพ (1)

ภัยร้ายมันฝรั่งทอด

มันฝรั่งทอด คุกกี้กรอบๆ หรือขนมสำเร็จรูปในถุงสวยๆ ทั้งหลาย ไม่ได้ทำให้อ้วนหากออกกำลังกายสม่ำเสมอ และควบคุมปริมาณอาหารที่กินในแต่ละวัน แต่อาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยไขมันชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ให้มีโอกาสเป็นโรคหัวใจและโรคมะเร็งมากขึ้น...

ที่มา : Are You Getting Enough Fat?"
By Colleen Pierre, R.D. Reader's Digest, 2001


ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิด ทำให้กระดูกบางลงได้ นำไปสู่ปัญหากระดูกพรุน เมื่อแก่ตัวลง ดังนั้นหากจำเป็นต้องกินหรือฉีดยาเหล่านี้ ก็อย่าลืมหมั่นกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ผักใบเขียวเข้ม ปลาเล็กปลาน้อย ฯลฯ
หรือทานแคลเซียมเสริมไว้ด้วย...

ที่มา : Canadian Medical Association Journal, October 2001


ผู้หญิงชอบดื่มพึงระวัง

คุณผู้หญิงที่ชอบดื่มพึงระวังเพราะร่างกายคุณ จะซึมซับแอลกอออล์ได้เร็วกว่าผู้ชาย ( เมาเร็วกว่า)
แล้วคุณยังมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม ได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ดื่มถึง 50% แถมยังกระดูกเปราะกว่ากันมาก
เพราะเหล้าจะเข้าไปทำลายเนื้อกระดูก(bone mass) ของคุณ...

ที่มา : Rethinking Drinking" Reader's Digest, December 2001


นั่งรถตรงไหนปลอดภัยที่สุด

นั่งรถเก๋งที่เบาะหลังตรงกลางปลอดภัยที่สุด รองลงมาคือ ที่นั่งด้านหลังทางซ้าย (หลังคนนั่งข้างคนขับ)
เพราะตามสถิติอุบัติเหตุจะเกิดทางด้านหน้า และ ด้านคนขับมากกว่า และหากมีคนนั่งรถไปกับคุณด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น จะลด อันตรายจากอุบัติเหตุการชนด้านหน้ารถลงไปด้วย...

ที่มา : The Seattle Times, November 11, 2001
(ข้อมูลจาก http://www.thaihealth.or.th/th/index_th.php )


ทานกะหล่ำปลีดิบมีพิษนะ
ในกะหล่ำปลีดิบจะมีสารพิษที่เรียกว่า กอยโตรเจน (Goibrogen) ซึ่งเป็นสารที่จะไปกันไม่ให้ต่อมไทรอยด์จับไอโอดีน ไปสร้างเป็น ฮอร์โมนไทร๊อกซิน (Thyroscine) ได้ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นคือ จะทำให้เกิดเป็นโรคคอหอยพอก แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำลายได้ โดยการต้ม จึงควรรับประทานกะหล่ำปลีสุก จะดีกว่ากะหล่ำปลีดิบ


ถั่วงอกดิบมีโทษครับ
ในผักสดบางชนิดมีสารพิษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ในถั่วงอก มีสารพิษพวกที่เรียกว่าไฟเตต ซึ่งเมื่อกินเข้าไปจะ ไปจับแร่ธาตุบางชนิดที่อยู่ในอาหาร ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแร่ธาตุเหล่านั้นเข้าร่างกาย ร่างกายจะเป็นโรคขาดแร่ธาตุ สารพิษเหล่านี้สามารถทำลายได้โดยการต้ม จึงควรรับประทานถั่วงอกสุขดีกว่าถั่วงอกดิบ


วิธีป้องกันตะคริว
ตะคริวเกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ การดื่มน้ำและ รับประทานผลไม้สดมากๆ
จึงช่วยลดการเป็นตะคริวได้...

ที่มา : Health& Fitness Column, Detroit News,
August 22, 2001


อดนอนบ่อยๆ ระวังเป็นเบาหวาน

ร่างกายที่ไม่ได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม จะใช้อินซูลินได้น้อยลง คนอดนอนบ่อยๆ จึงมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานสูงกว่าปกติ...

ที่มา : The Seattle Times, July 22, 2001


ตรวจฉี่ด้วยตัวเอง

ร่างกายแต่ละคนต้องการน้ำไม่เท่ากัน แพทย์แนะนำว่าควรดื่มมาก พอที่จะถ่ายปัสสาวะได้ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง หากปัสสาวะคุณเป็นสีเหลือง เข้มกว่าปกติ แสดงว่าคุณกำลังขาดน้ำ...

ที่มา : Health & Fitness Column, Detroit News, August 22, 2001


เนยแท้ vs เนยเทียม

เนยแท้ๆ ที่ทำมาจากนม อร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายกว่าเนยเทียม หรือมาร์การีนซึ่งไม่มีประโยชน์เลยแถมเป็นพิษต่อร่างกายอีกต่างหาก แต่ไม่ควรจะบริโภคเนยให้มากนักเพราะมากไป ก็ทำให้เป็นโรคหัวใจ และความดันได้ง่าย...

สาระสุขภาพ (2)

วิธีชะลอความแก่ 7 ประการ

เรื่องความชราที่มาเยือนนั้นเป็นไปตามวัยก็จริง แต่หนุ่มสาวสมัยนี้กลับ "แก่ก่อนวัย" ถึงเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า "ทุกอย่างนั้นอยู่ที่ใจ" เคล็ดลับเหล่านี้ได้จาก น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สูตินารีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
๑.ต้องไม่อยากแก่... ต้องตั้งใจคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวเอาไว้ และต้องปฏิบัติควบคู่ไปทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ
๒.มีใจเป็นหนุ่มสาว..คือ รักอิสระ มองโลกในแง่ดีและที่สำคัญมีความหวังเสมอ หรือการคบเพื่อนที่อายุน้อยกว่าก็เป็นวิธีการที่ดี
๓.ลดความเครียด.. เลิกเอาคิ้วผูกโบได้แล้ว ลองยิ้มให้มากขึ้น ถ้าไม่รู้จะยิ้มอย่างไรก็ลองยิ้มกับกระจกเงาที่บ้านดูสิ
๔.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ.. ออกกำลังการอย่างน้อย 15 นาทีจะดี
๕.กินอาหารต้านชรา.. พยายามเลือกอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย เช่น พืชผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
๖.นอนหลับเพียงพอ.. เราควรจะนอนให้เพียงพอกับร่างกาย ที่ดีที่สุดควรนอนก่อนสี่ทุ่มจะดีที่สุด
๗.ความรัก.. ความรักเท่านั้นที่จะช่วยให้คนสดชื่น กระชุ่มกระชวย ทั้งความรักของคนหรือสัตว์ ก็จะช่วยให้เราหัวใจเบิกบาน

ขนมเด็กเคลือบยาพิษ Safe Stamp ระวัง !
อันตรายจากอาหารขบเคี้ยว ข้อมูลจากการสำรวจของราชพฤกษ์โพล คณะสาธารณะสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเก็บตัวอย่างจากขนมหลายประเภท จากโรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษา จำนวน 40 โรงเรียน ในพื้นที่17 เขตของกรุงเทพมหานคร พบว่าภัยร้ายที่แฝงอยู่ในขนมเด็ก โดยเฉพาะสารตะกั่วซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย ขณะเดียวกันก็ยังพบสารอันตรายอื่นๆ โดยเฉพาะเกลือโซเดียมในปริมาณมากน้อยต่างกันไป ซึ่งหากบริโภค มากจนตกค้างสะสมในร่างกาย อาจมีผลให้เส้นเลือดในสมองโป่งพองได้ 10 อันดับขนมขบเคี้ยวประเภทข้าว แป้ง ที่พบปริมาณโซเดียมสูงสุดดังนี้
1. ข้าวเกรียบปลาหมึก ตราอาริงาโตป้ง
2. ขนมทอดกรอบตราปูไทย ซองส้มเข้มป้ง
3. ข้าวเกรียบทอด ตราเอสบี รสพริกหยวกี่
4. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราฮานามิ รสเม็กซิกันชิลลี่ษ
5. แป้งมันฝรั่งทอดกรอบ ตราโรลเลอร์ โคสเตอร์ รสหัวหอมทรงเครื่อง
6. แป้งข้าวโพดอบกรอบ ตราโจโต้ รสปลาหมึก
7. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราคาลบี้ รสต้มยำรสแซบ
8. ข้าวเกรียบปลา ตรามโนห์รา
9. ข้าวเกรียบกุ้ง ตรามโนห์รา
10. ข้าวเกรียบรสมะเขือเทศ


โทษของน้ำต้มเดือดหลายๆ ครั้ง
น้ำประปามีแร่ธาตุหลายชนิด เมื่อต้มเดือดแล้วเดือดอีกหลายๆ ครั้ง น้ำจำนวนมากจะระเหยกลายเป็นไอ ส่วนที่เหลือ จึงมีปริมาณแร่ธาตุ ชนิดต่างๆ เข้มข้นขึ้นมาก และเกินมาตรฐานการบริโภค น้ำที่ต้มเดือดนานๆ
ไอออนของซิลเวอร์ไนเตรทที่อยู่ในน้ำ จะเปลี่ยนเป็นซิลเวอร์ไนไตรท์ ซึ่งเป็นสารที่ให้โทษแก่ร่างกาย และแร่ธาตุบางอย่างที่เป็นโทษต่อร่างกาย จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพราะการระเหยของน้ำ และอาจมากจนเกินขีดจำกัด ความสามารถของร่างกาย ในการกำจัดขับถ่ายออกมา จึงไม่ควรดื่มน้ำที่ ต้มเดือดแล้วหลาย ๆ ครั้ง ครับ

อาหารต้านมะเร็ง 5 ประการเพื่อการป้องกัน 1. รับประทานผักตระกูลกะหล่ำให้มาก เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักคะน้า หัวผักกาด บรอคโคลี่ ฯลฯ
เพื่อป้องกัน โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลำไส้ส่วนปลาย กระเพาะอาหาร และอวัยวะระบบทางเดินหายใจ
2. รับประทานอาหารที่มีกากมาก เช่น ผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด และเมล็ดธัญพืชอื่น ๆ เพื่อป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
3. รับประทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีน และไวตามินเอสูง เช่น ผัก ผลไม้สีเขียว-เหลือง เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร กล่องเสียง และปอดำ
4. รับประทานอาหารที่มีไวตามินซีสูงเช่น ผัก ผลไม้ต่างๆ เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร และกระเพาะอาหาร
5. ควบคุมน้ำหนักตัว..โรคอ้วนมีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็ง เช่น มดลูก ถุงน้ำดี เต้านม และลำไส้ใหญ่

ผลกระทบของการอดนอน
งานวิจัยเชิงทดลอง โดยอาสาสมัครหนุ่มสาว ทดลองนอนหลับวันละ 4 ชม. เป็นเวลา 6 คืน เมื่อเจาะตัวอย่างเลือด พบว่า มีปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นและควบคุมยาก ซึ่งเกือบจะเป็นเหมือนโรคเบาหวาน นักวิจัยยังพบว่าการอดนอนเป็นสาเหตุของโรคอ้วน โดยเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเร่งการเติบโต ซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตทางกายภาพ และควบคุมสัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อในร่างกาย
การอดนอนทำให้ฮอร์โมนนี้หลั่งน้อยลง ร่ายกายรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลต่อฮอร์โมนเลปติน ซึ่งเป็นสารที่สื่อต่อระบบประสาท ว่า ควรจะอิ่มได้เร็วหรือช้าเท่าใด ตามความต้องการอาหารของร่างกาย เมื่อระดับเลปตินลดลงจากการนอนน้อย ผู้คนจะรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น แม้จะได้กินอาหารจนได้พลังงานเพียงพอแล้วก็ตาม .
การนอนไม่พอยังส่งผลต่อเม็ดเลือดขาว และกลไกการตอบสนองภูมิคุ้มกันต่างๆ ของร่างกาย ทำให้เจ็บป่วยง่ายเมื่อเจอเชื้อโรค การนอนไม่พออาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง มีความเกี่ยวข้องกันในเรื่องวงจรการหลั่งฮอร์โมนแปรปรวน เนื่องมาจากการอดนอนและ แสงรบกวนในเวลากลางคืน ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ฉะนั้น นอกจากเราควรจะนอนให้เพียงพอแล้ว เรายังไม่ควรเปิดไฟนอนอีกด้วย


6 อัศวินช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
ร่างกายของคนเราสามารถสร้างคอเลสเตอรอลได้เองอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเรารับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
ระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ก็จะมีสูงขึ้นตามไปด้วย เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน และหัวใจวายแน่นอน อาหารบางอย่างมีคุณสมบัติ ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลได้ เป็นอย่างดีเยี่ยม 6 อัศวินตัวสำคัญนั้นคือ
1.มะเขือต่างๆ..
2.หอมหัวใหญ่..
3.กระเทียม
4.ถั่วเหลือง..
5. แอปเปิล..
6.โยเกิร์ต
วันใดมื้อใดที่คุณมีเมนูอาหารซึ่งอุดมไปด้วยไขมันมากๆ ก็ควรรับประทานอัศวินตัวหนึ่งตัวใดเพื่อควบคุมไขมัน.

Sunday, August 27, 2006

นอนท่าไหน ?

นอนหงาย:
1. กางแขนกางขา: ช่างรักอิสระเสรี อะไรขนาดนั้น ท่านอนบ่งบอก ความเป็นตัวของตัวเอง อย่างแรง รักความสะดวกสบาย รักสวยรักงาม จับจ่ายใช้สอย สุรุ่ยสุร่าย แต่ก็หาเงินเก่งพอๆ กัน ที่แย่หน่อยคือ ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน และสนุกกับ การตั้งสโมสร ซะด้วยซิ...

2. นอนเอาขาไขว้กันแบบไขว่ห้าง:
ท่านว่า คนที่นอนท่านี้ ไม่ค่อยกล้ายอมรับ ความเปลี่ยนแปลงใดได้ง่ายๆ แถมยังชอบ หมกมุ่นอยู่กับ เรื่องของตนเอง รักที่จะอยู่คนเดียว ข้อดีก็คือ ช่างมีน้ำอดน้ำทน กับเรื่องรอบๆ ตัวได้ดีจริงๆ

3. นอนเอามือไพล่ประสานกัน รองศรีษะ: เขาว่า คนนอนท่านี้เป็นนิจ เป็นคนฉลาด ปราดเปรื่อง ปัญญาเฉียบแหลม ชอบเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆ ไม่รู้จบ บางครั้ง ก็มีความคิด แปลก แหวกแนว ที่ชาวบ้านตามไม่ทัน เป็นคนน่ารัก ที่ให้ความสนใจครอบครัว อยู่เสมอ... แต่มันสำคัญที่ว่า... ช่างเป็นคนที่ รักคนยาก ซะเหลือเกิน... ช่างเลือกเกินไปหรือเปล่า?

นอนคว่ำ:
4. นอนคว่ำ: ถ้านอนท่านี้ ได้ทั้งคืน ก็ให้รีบสำรวจได้แล้วว่า เป็นคน ใจคอคับแคบ หรือเปล่า มักจะเอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่ และต้องการให้ ใครต่อใคร ทำตามความต้องการของตัวเองอยู่เสมอๆ แถมยังเป็น คนสับเพร่า จับจดเสียด้วยนะ........รีบเปลี่ยนท่านอนซะเถอะ

นอนตะแคง:
5. นอนตะแคง: ท่านี้ เป็นท่านอนของคนที่ มีความเชื่อมั่นในตัวเอง และไม่ว่าจะทำงานอะไร ก็มักจะก้าวไปสู่ความสำเร็จ ด้วยความอุตสาหะ มานะ พยายาม อย่างสม่ำเสมอ ยิ่งไปกว่านั้น ท่านว่า คนที่ชอบ นอนตะแคงขวา เหยียดแขนขวา ไปเหนือศรีษะละก็... อำนาจ วาสนา ดีนักแล...?

6. นอนตะแคงงอขาขึ้นข้างหนึ่ง: ไม่ดีละมั้ง... ท่านว่า ขี้ระแวง สงสัยอยู่ไม่สร่าง โดยไร้เหตุผล จู้จี้ขี้บ่นไม่รู้เวลา นอกจากจะขาด ความเป็นตัวของตัวเองแล้ว อาจจะพาลเป็น โรคประสาทได้ง่ายๆ... ทั้งตัวเอง และคนข้างเคียงน่ะแหล่ะ!

7. นอนงอตัว: นี่ก็อีกคน... น่าจะเป็น คนขี้อิจฉาตาร้อน กลัวใครเขา จะได้ดีไปกว่าตนซะหมด พูดง่ายๆ ก็คือ ค่อนข้างจะเป็น คนเห็นแก่ตัวอย่างแรง แถมยัง เจ้าคิดเจ้าแค้น ชอบพยาบาทรุนแรงด้วยนะ... ระวังหน่อย!

8. นอนทับแขนตัวเอง: คนนี้ตรงกันข้ามกับ คนนอนงอตัว ท่าที่ 7 เลย... ช่างสุภาพอ่อนโยน จริงใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก อะไรจะปานนั้น... แต่ดูเหมือน จะมีกรรมมาบัง เพราะเขาจะเป็นคนที่ ขาดความมั่นใจในตนเอง และขาดความอบอุ่นในชีวิต.. น่าสงสารนะ

ท่าพิสดาร:
9. นอนคุดคู้: เป็นคนขี้เหงาอย่างแรง ซึมเศร้าง่าย เพราะไปฝังใจกับเรื่องเศร้าๆ เรืองผิดหวัง หรือสูญเสียในอดีต เป็นคนขี้ระแวง และมีความลังเล ไม่มั่นใจอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกว่า ขาดความรักความอบอุ่น.. เติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม

ท่าพิสดาร:
10. นอนคลุมโปง: เชื่อไหมว่า ภายนอก เขาคนนี้อาจจะดูผึ่งผาย น่าเชื่อถือมาก แต่ลึกลงไปแล้ว เขาขี้อาย จิตใจอ่อนแอ... เขาชอบมีความลับ และเก็บความลับเก่งด้วยนะ มีอะไร ก็จะแอบเก็บไว้ในใจ แล้วเก็บเอาไปกังวล วุ่นวายใจ วนเวียนอยู่กับปัญหานั้น คนเดียว ไม่รู้จบรู้สิ้นสักที... ไม่รู้ว่า นอนขมวดคิ้วนิ่วหน้า ด้วยรึเปล่า?

พรสวรรค์พิเศษ ห้ามลอกเลียนแบบ:
11. นอนเอามือจับอวัยวะเพศของตัวเอง: คนนี้มาแปลก... ท่านว่า จะชอบหมกมุ่น อยู่ใน กามารมณ์ มีความต้องการทางเพศสูง ใจร้อน โกรธง่ายหายเร็ว รักใครหลงใครละก็ เป็นได้หัวปักหัวปำ แบบกู่ไม่กลับ ทั้งๆ ที่เป็น คนมีสติปัญญา เฉลียวฉลาด อยู่หรอกนะ

พรสวรรค์พิเศษ ห้ามลอกเลียนแบบ:
12. นอนละเมอ: จะซีเรียสอะไรกันได้ขนาดนั้น ก็ไม่รู้... เขาเป็นคนคิดมาก ยังฝังจิตฝังใจกับ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ไม่ยอมลีม... สังเกตดีๆ จะเห็นว่า เขาขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง และจะคล้อยตามคนอื่นอยู่เสมอ... ถ้าเขาละเมอบ่อยมาก และรุนแรงขึ้นละก็ น่าจะเตือน ให้เขาปรึกษาแพทย์ หรือผู้รู้ซะได้แล้ว

พรสวรรค์พิเศษ ห้ามลอกเลียนแบบ:
13. นอนกัดฟัน: นี่ก็คนเก็บกด... โบราณว่า เป็นคนอาภัพ ซึ่งเขาอาจจะ คิดไปเอง ก็เลยอมทุกข์ เก็บกดความทุกข์ไว้ในใจ หน้าฉากอาจจะดูรื่นเริง แต่แอบไปนอนกัดฟันกรอดๆ ทุกคืน... ปล่อยวางซะบ้างเถอะ จะเอาอะไรกันนักหนากับชีวิต

พรสวรรค์พิเศษ ห้ามลอกเลียนแบบ:
14. นอนอ้าปาก: ชวนเขา ไปตรวจสุขภาพร่างกายบ้างเถอะ เพราะ โบราณท่านว่า คนนอนท่านี้ มักจะมีโรคภัยเบียดเบียน ให้สุขภาพไม่แข็งแรง เดี๋ยวจะพาลอายุไม่ยืนซะเปล่าๆ

พรสวรรค์พิเศษ ห้ามลอกเลียนแบบ:
15. นอนลืมตา ถ้าไม่ได้เป็นผลมาจาก ทำตา 2 ชั้น ละก็ ท่านให้ระวัง จะถูกใส่ร้าย ใส่ความ หรืออาจจะ เกิดอุบัติเหตุได้ เตือนๆ ให้ระมัดระวัง รอบคอบ อย่าประมาท ก็แล้วกันนะ

Tuesday, August 22, 2006

มองโลกในแง่ดีบ้างซินะ

คนเราหากรู้จักมองโลกในแง่ดี อะไรร้าย ๆ ก็จะกลายเป็นดี แม้แต่คำด่า หรือคำสบถ ก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นคำชมได้



" เหี้ย "
คุณเป็นคนที่มีความอดทน , ไม่เรื่องมาก , ไม่เลือกกินหากคุณโกรธคุณก็จะดุดัน แต่คุณมักไม่ระรานผู้อื่นก่อนคุณว่ายน้ำเก่ง ดำน้ำเก่ง แถมยังปีนต้นไม้เก่งอีกด้วย...ญาติคุณที่ฟิลิปปินส์ ถือได้ว่าเป็นนักล่าตัวฉกาจเลยทีเดียว


" ต่ำ " , " สถุล " , " ไพร่ " , " สลัม "
คุณเป็นคนติดดิน ทำอะไรก็ได้สบาย ๆ ชิว ๆคุณอาจจะไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่ก็พอใจในชีวิตตนเองคนที่อยู่สูงกว่าคุณใช่ว่าจะดีกว่าคุณเสมอไปและคุณยังเป็นคนที่ดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง



" ควาย "
คุณเป็นคนที่มีความอดทน รูปร่างกำยำล่ำสันคุณถือได้ว่าเป็นวีรบุรุษของชาติ เพราะบรรพบุรุษของคุณเคยออกไปฝ่าดงธนู สู้รบปรบมือกับทหารพม่ามาแล้วคุณเป็นคนกตัญญูรู้คุณคนอื่น ฉลาด และอ่อนโยนหากถึงเวลาสู้ขึ้นมา คุณก็จะฮึดสู้สุดใจขาดดิ้น...

" หยาบคาย " , " ถ่อย "
คุณเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม รักใครรักจริงมีอะไรก็ไม่ปิดบัง พูดซึ่ง ๆ หน้า ไม่ต้องว่ากันลับหลังคุณซื่อตรงต่อจิตใต้สำนักและเป็นตัวของตัวเอง...แต่บางครั้ง...คุณก็ต้องรักษาน้ำใจของผู้อื่นบ้าง



" หน้าส้นตีน "
คุณเป็นคนที่มีความอดทน คุณอาจจะหน้าตาไม่ดี ผิวพรรณอาจจะหยาบกระด้างไปบ้าง แต่ก็มีคุณงามความดี เผ่าพันธุ์มนุษย์จะไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ หากไม่มีคุณอาจจะเป็นเพราะทำบุญปิดทองหลังพระ จนไม่มีใครสนใจแต่ซักวันต้องมีคนเห็นความสำคัญของคุณอย่างแน่นอน ...ปล. ปัจจุบันมีสปาสำหรับคุณโดยเฉพาะแล้วอีกด้วย

" บ้ากาม " , " ลามก " , " หื่น "
หากไม่มีคุณ เผ่าพันธุ์มนุษย์คงสูญพันธุ์ไปนานแล้วคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญ ( กูรู ) ผู้รอบรู้เรื่องเพศศึกษาทฤษฎีก็แน่น พร้อมที่จะปฎิบัติงานจริง ไม่ต้องลีลาคุณบางคนอาจจะเก่งกว่าสูตินารีแพทย์เสียอีก...



" สัตว์!! "
คุณเป็นคนที่มีจิตใจ มีเลือด มีเนื้อ มีจิตวิญญานคุณเป็นสิ่งมีชีวิต คุณรู้จักรัก , ห่วงใย และการต่อสู้อันที่จริงมนุษย์ก็ถือเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่อัพเกรดแล้วคุณคงไม่ชอบให้ใครมาเรียกว่า " ไอ้สิ่งของ " หรอกนะ

" โรคจิต " , " วิปริต " , " บ้า "
คุณเป็นคนที่แปลกแยกไปจากคนอื่น คุณเป็นตัวของตัวเองคุณอาจจะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม แต่คุณก็รู้จักที่จะใช้ชีวิตในแบบของตนเอง ไม่ต้องไปตามก้นใคร...( แต่ก็ควรใช้แบบมีขอบเขต ก่อนจะโดนจับเข้าคุก )



" ดอกทอง "
ปัจจุบันคุณรู้ไหม ทองราคาบาทละเท่าไหร่ ??อย่างที่เขาว่า " มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่ "อย่างน้อยคุณก็ดูดีมีระดับกว่า ดอกเงิน กับ ดอกทองแดง



" แรด "
คำนี้ผู้ชายไม่ค่อยชอบใช้ ปกติจะตกอยู่กับผู้หญิงหรือไม่ก็เพศที่ 3 มักจะพูดคำนี้...คุณเป็นคนที่อดทนแข็งแกร่ง คุณอาจจะโผงผาง แต่ก็มีความอ่อนโยนในตนเอง" ไปแรด " หมายความ คุณกำลังจะออกไปเผชิญโลกกว้าง !!

................

Monday, August 21, 2006

ทัศนคติบอด

นายชนะโทรไปบริษัทนี้เป็นหนที่สองในรอบสัปดาห์นี้. บริษัทนี้เป็นลูกค้ารายใหม่ที่เขากำลังติดตามเรื่องอยู่
เสียงของโอเปอร์เรเตอร์ซึ่งรับสายด้วยเสียงที่เป็นมิตร และอ่อนโยนกล่าวว่า "สวัสดีคะบริษัทเอบีซีอิงค์ ยินดีต้อนรับคะ "

คุณชนะกล่าวว่า " ผมขอเรียนสายกับคุณสมจิต ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์หน่อยครับ"

โอเปอร์เรเตอร์กล่าวทักขึ้นมาว่า " นั่นคุณชนะใช่ไหมคะ"

นายชนะรู้สึกแปลกใจความสามารถในการจดจำเสียงของพนักงานคนนี้ได้ เขากล่าวตอบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความประทับใจ

"ใช่แล้วครับ ขอบคุณที่จำได้ครับ " เธอกล่าวว่า

"ยินดีคะ ดิฉันจะโอนสายให้นะคะ " หลังจากที่ชนะสนทนาเรื่องงานกับสมจิตจบ นายชนะจึงถามสมจิตขึ้นมาว่า "คุณสมจิต ผมขอชมพนักงานรับโทรศัพท์ของคุณหน่อยครับ เธอเก่งจริงๆเลยที่จำเสียงผมได้
เป็นการให้บริการที่เกินความคาดหวังของผมจริงๆเลยครับ

ผมเองไม่ได้เป็นลูกค้าประจำ และก็ไม่ได้โทรมาบ่อยๆ ขนาดที่เธอจะจำเสียงผมได้ด้วย เธอมีเคล็ดลับอะไรครับ" สมจิตพูดว่า " เธอชื่อเรณูคะ เธอได้รับคำชมอย่างนี้บ่อยๆ หากคุณฟังเรื่องของเธอมากขึ้นกว่านี้คุณจะยิ่งประทับใจ สนใจฟังไหมละคะ"

นายชนะรีบกล่าวตอบด้วยความกระตือรือร้นว่า "สนใจสิครับ ช่วยกรุณาเล่าให้ฟังหน่อยครับ " สมจิตเริ่มต้นเล่าอย่างอารมณ์ดี "คุณเรณูเธอตาบอดคะ เธอจึงต้องอาศัยการฟังเพียงอย่างเดียว ทำให้เธอสามารถจดจำชื่อคนได้ดี เธออาศัยอยู่ที่สมุทรปราการและมาทำงานที่ออฟฟิศนี่ ซึ่งอยู่แถวดอนเมือง ซึ่งถือว่าไกลมากโดยเฉพาะสำหรับเธอ ซึ่งต้องเดินทางโดยรถเมล์เหมือนคนปกติ ส่วนใหญ่ก็จะมีคนตาดีอย่างพวกเราที่คอยช่วยดูสายรถเมล์ และส่งเธอขึ้นรถให้ เธอไม่เคยมาสายเลย และก็ไม่เคยเรียกร้องขอรถรับส่งแต่อย่างใด ไม่เหมือนพนักงานปกติของพวกเราหลายคน

ตอนที่เราย้ายสำนักงานจากในเมือง ต้องขอรถรับส่งให้ด้วย แถมหลายๆคนที่มีรถส่วนตัวก็ยังมาทำงานสาย พร้อมกับเหตุผลสารพัด คิดแล้วอายแทนคนตาดีเลยคะ" เธอหยุดเว้นจังหวะสักครู่ก่อนจะเล่าต่อว่า
"คุณเรณูมีทัศนคติที่ดีมากๆกับงานของเธอ เธอเคยเล่าให้ดิฉันฟังว่าสำหรับเธอแล้ว การรับโทรศัพท์ไม่ใช่งาน แต่มันคือชีวิต เงินเดือนที่บริษัทให้กับเธอ ทำให้เธอสามารถเลี้ยงตัวเอง และครอบครัวได้อย่างดี นอกจากนี้เธอยังมีเงินเหลือกว่าครึ่งสะสมไว้อีก ที่จริงแล้วเพื่อนคนตาดีหลายคนเคยหยิบยืมจากเธอในยามฉุกเฉิน

คุณเรณูกล่าวว่าบริษัทเรา เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และสังคมมอบโอกาส ให้เธอได้พิสูจน์ว่าเธอมีคุณค่าและสามารถมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประโยชน์ ให้กับสังคมได้ เธอบอกว่าเธอพยายามทำงานของเธออย่างสุดความสามารถ ซึ่งรวมทั้งพยายามจำชื่อของผู้ที่โทรเข้ามาด้วย

เธอบอกว่าทุกคืนก่อนเข้านอน เธออยากรีบนอนไวๆ เพื่อจะได้รีบตื่นขึ้นมาทำงาน เธออดใจรอจะมาทำงานไม่ไหว แหมอย่าหาว่าดิฉันบ่นเลยคะ แต่พวกตาดีๆอย่างพวกเรากลับภาวนา ให้ถึงวันหยุดเร็วๆเสียนี่กระไร" คุณสมจิตจบเรื่องด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างคนอารมณ์ดี

เมื่อชนะมาเล่าเรื่องนี้ให้กับผมฟังในรถระหว่างที่เราเดินทางไปพบลูกค้าที่นวนคร ผมจึงเสริมความเห็นของผมไปว่า " เราน่าจะเล่าเรื่องนี้ให้คนที่มาเข้าอบรม กับเราฟังบ้างนะ บ่อยครั้งเรามักจะได้ยินคนบ่นว่างานหนัก หรือไม่ก็ปัญหาเรื่องงานมีมาก สิ่งที่คุณเรณูมีแตกต่างกับเรา ไม่ใช่ว่าเธอตาบอดหรอกครับ ความจริงพวกเราต่างหากที่บอด"

Sunday, August 20, 2006

รักหรือ ! เด็กโง่



รัก.......... แท้..เป็น..................ตำนาน
รัก..... สิ้นลมปราน..เป็น........บทประพันธ์
รัก........... ไม่แปรผัน..เป็น..........นิยาย
รัก........... จนวันตาย..เป็น..........นิทาน
รัก........... จนวันตาย..เป็น..........นิทาน
รัก........... ตลอดกาล..เป็น..........ละคร
รัก...... อยู่ทุกตอน..เป็น......ละครน้ำเน่า
รัก.........ไม่เคยเก่า..เป็น.......จริงช่วงแรก
รัก........... ในความแปลก..เป็น.....คำฮิต
รัก........... ด้วยชีวิต..เป็น.............ลิเก
รัก....... ไม่โลเล..เป็น............ความฝัน
รัก.......... เธอนิรันด์..เป็น..........ชื่อเพลง
รัก........ นะตัวเอง..เป็น...........เด็กอมมือ
รัก............ ซื่อสัตย์..เป็น.............คำลวง
รัก.........หมดทรวง..เป็น..........คำติดปาก
รัก............ เธอมาก..เป็น............คำฮอต
รัก.......เดียวตลอด..เป็น........ไปไม่ได้!!!!!

Saturday, August 19, 2006

สายใยรัก (1)


บันทึกจากสายใยรัก

ไช่ว่าจะมีแค่เราเท่านั้นที่เดียวดาย
ยังมีใครและใครอีกหลายคน ที่เศร้าไม่ต่างจากเรา
หรืออาจจะมากกว่าเรา สิ่งที่ฉันจะบอกเธอก็คือว่า...
เศร้าใจไปใยกับวิกฤติทั้งมวล
ช่วงเวลานั้นต้องผ่านไปในเร็ววัน.บนเส้นทางชีวิตของคนเรา
แม้จะอ้างว้าง ไม่ราบเรียบ แต่ก็ยังอีกยาวไกล บนเส้นทางนั้น เรามิอาจหลีกพ้น
จากความรัก ความชิงชัง ความเมตตาปราณี และความไม่ใยดีต่อกัน

Friday, August 18, 2006

มะเร็งชอบคนแบบไหน ?



มะเร็งชอบคนแบบไหน ??


เมื่อเอ่ยถึงมะเร็งคนร้อยทั้งร้อยเป็นต้องกลัว ดังนั้นจะทำอย่างไรดีจึงจะมีสุขภาพดีปลอดภัยจากมะเร็งกัน เรามาดูกันดีกว่าว่าคนแบบไหนบ้างที่มะเร็งชอบไปอยู่กับคนประเภทไหนกันบ้าง

คนแพ้อะไรง่าย ชื่อก็บอกว่าแล้ว ขี้แพ้ เลยพาลแพ้มะเร็งไปด้วยไงล่ะ นักวิจัยสหรัฐ ได้สำรวจพบกว่าเกือบ 4 หมื่นคนที่แพ้ยาหรือสารเคมีง่าย จะมีโอกาสเป็นมะเร็งง่ายกว่าคนไม่แพ้อะไรเลยเช่น ผู้หญิงมักจะเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าคนปกติ 30% ผู้ชายเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากสูงกว่าคนปกติ 41%

คนนอนดึก แม้ว่าปัจจุบันยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงของมะเร็ง แต่ที่น่าเชื่อถือ คือการนอนหลับไม่พอ เป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งต่อการเป็นมะเร็ง เพราะเซลมะเร็งที่ผิดปกติและเกิดขึ้นกระทันหันจะเจริญเติบโตได้ดีในช่วงกลางคืน คนที่นอนไม่พอ ยังควบคุมการเกิดเซลพวกนี้ได้ยาก และคนนอนดึก ยังต้องดื่มกาแฟหรือสูบบุหรี่ เพื่อให้ตื่นตัวตลอด ยิ่งมีโอกาสเป็นมะเร็งมากขึ้น

คนอ้วน ข้อมูลของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ระบุว่า ผู้หญิงอ้วนมีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้มากกว่าผู้หญิงรูปร่างปกติ 2 เท่า สถาบันมะเร็งสหัฐ ก็รายงานว่า ผู้หญิงอ้วน เป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่าผู้หญิงปกติ 4-6 เท่า

คนขาดวิตามิน คนที่มีวิตามินในร่างกายน้อย มีโอกาสเป็นมะเร็งสูง เช่น คนขาดวิตามินเอ เสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะ 3.5 เท่า คนขาดวิตามินซี มีโอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งต่อมหมวกไต มากถึง 2 เท่า คนขาดวิตามินอี มีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังมะเร็งกระเพาะ มะเร็งช่องปาก

คนมีคลอเลสเตอรอลต่ำเกินไป คนที่มีคอเลสเตอรอลสูงไปก็เป็นโรคหัวใจ ต้องลดลง จึงปลอดภัย แต่คอเลสเตอรอล เป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้และเป็นกองกำลังต้านทานโรค รายงานนักวิจัยชาวอังกฤษ พบว่าปัจจัยเสี่ยงต่อการตายของหญิงวัยกลางคนที่สำคัญ คือมีคอเลสเตอรอลต่ำเกินไป ดังนั้น จึงควรพยายามรักษาระดับ คอเลสเตอรอลให้อยู่ในสมดุลไม่มากไม่น้อยเกินไปจึงเป็นการดีที่สุด

ดื่มชาร้อนเข้มข้นบ่อยๆ คนที่ดื่มชาอุณหภูมิสูง(เกิน 80 องศาเซลเซียส) มีโอกาสเป็นมะเร็งหลอดอาหาร เพราะสารแทนนินในใบชา จะไปทำลายเนื้อเยื่อในหลอดอาหาร กระตุ้นให้เกิดเซลผิดปกติ

คนเป็นความดันโลหิตสูง แม้จะพูดไม่ได้ว่า ความดันโลหิตสูงเป็นเหตุให้เป็นมะเร็ง แต่ทั้ง 2 โรคมันมีอะไรเหมือนๆ กัน คืออ้วน ติดสุรา รับประทานอาหารเค็มจัด

คนอั้นปัสสาวะ ในน้ำปัสสาวะ มีสารชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ทำลายเนื้อเยื่อกระเพาะปัสสาวะผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ตอนที่ปัสสาวะหรืออุจจาระ จะมีของเสียออกมามาก รวมทั้งสิ่งที่ก่อให้เกิดมะเร็ง จึงอย่าอั้นปัสสาวะบ่อย

คนไม่ดื่มนมเปรี้ยว นมเปรี้ยวมีแบคทีเรียที่ช่วยลดการดูดซึมไขมัน ถ้าดื่มทุกวันจะเพิ่มระดับสารอาหารและมีภูมิคุ้มกันดีขึ้น ยังลดโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมด้วย

Sunday, August 13, 2006

เพือน


คลิ๊กที่รูปภาพ เพื่อขยายให้ใหญ่ขึ้น