Wednesday, November 16, 2011

เขาผู้ยิ่งใหญ่เพราะมีเธอผู้เข้มแข็ง

เป็นภาพประกอบเท่านั้น


ในขณะที่นายโธมัส วิลเลอร์ ซึ่งเป็น CEO Massachusetts Mutual life Insurance Company พร้อมกับภรรยาของเขา กำลังขับรถอยู่บนทางหลวงระหว่างรัฐอย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น โดยลืมสังเกตุว่าน้ำมันรถใกล้จะหมดแล้ว มารู้ตัวอีกทีก็สายเกินกว่าที่จะขับรถไปในเส้นทางนี้เพื่อไปเติมน้ำมันยังปั้มข้างหน้าแน่แล้ว เขาจึงตัดสินใจเลี้ยวรถออกจากเส้นทางนั้น เข้าสู่ถนนในชนบท โดยคาดว่าจะได้เจอกับปั้มน้ำมันที่อยู่ใกล้กว่า และก็เป็นไปดั่งคาด เมื่อเขาเข้าไปในหมู่บ้านเล็ก ๆ บนถนนที่ขรุขระ เขาได้เจอกับปั้มน้ำมันที่เก่าๆ และทรุดโทรมมากแล้ว มีพนักงานอยู่แค่คนเดียว

ในขณะที่พนักงานของปั้มกำลังใส่น้ำมันให้กับรถของเขา เขาก็ออกไปเดินยืดเส้นยืดสายนอกรถ แต่เมื่อกลับมาขึ้นรถอีกทีเขาก็รู้สึกแปลกใจ ที่เห็นภรรยาของเขา และพนักงานในปั้มน้ำมันกำลังคุยกันอย่างสนิทสนม เหมือนกับว่าได้รู้จักกันมาเป็นแรมปี

และในขณะที่เขากำลังจะขับรถออกจากปั้ม เขาก็ได้ยินภรรยาเขาพูดกับพนักงานคนนั้นว่า โชคดีเหลือเกินที่ได้เจอกัน พร้อมทั้งโบกมืออำลากัน อย่างกับว่าเป็นคู่ซี้ที่สนิทชิดเชื้อกันมากเหลือเกิน เขาจึงถามภรรยาของเขาว่า รู้จักกับเด็กปั้มคนนั้นหรือ ? ภรรยาเขาตอบว่า รู้จักมานานแล้ว เรียนมัธยมมาด้วยกัน และเคยเป็นแฟนกันด้วย.

ได้ยินดังนั้น สามีก็พูดว่า "โอ้ที่รัก โชคดีนะที่เธอได้มาแต่งงานกับฉัน ได้เป็นภรรยาของผู้บริหารบริษัทที่ยิ่งใหญ่ เพราะหากไม่เช่นนั้นแล้ว เธอก็จะเป็นแค่ภรรยาของเด็กปั้มโทรมๆ คนนั้น "

แต่ภรรยาเขาก็สวนกลับทันทีว่า "คิดผิดแล้วค่ะ คุณต่างหากที่โชคดี ที่ได้แต่งงานกับฉัน เพราะหากฉันแต่งงานกับเขา เขาต่างหากที่จะได้เป็นผู้บริหารบริษัทที่ยิ่งใหญ่ ในขณะที่คุณก็อาจจะเป็นได้เพียงแค่เด็กปั้มโทรมๆ เช่นนั้น" (The Best Of Bits & Pieces, 1 จาก 71 เรื่อง ในหนังสือ Chicken Soup for The Couple's Soul)

จากเรื่องเล่าข้างต้น ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า มีคนจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จ และเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ เพราะมีแรงผลักดันสำคัญจากหญิงผู้เป็นภรรยา แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีผู้ชายเป็นจำนวนไม่น้อย ที่ต้องล้มเหลว สิ้นเนื้อประดาตัว ด้วยเหตุเพราะผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วย

การแต่งงาน ถือเป็นการหลอมรวมคนสองคนให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งจะเป็นพลังอันสำคัญที่จะขับดันทั้งสองชีวิตให้ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งถ้าเป็นดังนี้ ทั้งเขาและเธอก็คือบุคคลผู้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทั้งสองได้คาดหวัง ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ นานา และก็ต้องใช้เวลาที่นาน บนเส้นทางนั้นทั้งสองจะต้องพร้อมเผชิญหน้ากับขวากหนามที่คอยทิ่มแทงให้ต้องเจ็บปวด ทั้งคลื่นลมที่แปรปรวน ทั้งพายุร้ายที่ซัดสาด ให้นาวาชีวิตต้องพังทลาย หรือหันเหจากเส้นทางที่ได้วางไว้

นาวาชีวิตที่ทั้งเขาและเธอได้ร่วมกันก่อร่างสร้างขึ้นมา ภายใต้ความรักที่มั่นคง ที่ผูกมัดเขาทั้งสองเสมือนหนึ่งเกลียวเชือกที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวและรัดรึงอย่างแน่นหนา ร่วมกันก้าวย่างไปข้างหน้าจวบกาลนานนับสิบหรือนับร้อยปี จวบจนอาญัลมาถึง

สำหรับครอบครัวมุสลิมเราจะต้องร่วมกันซูโกรต่ออัลเลาะห์ ที่ได้ประทานหัวใจให้กับเรา ให้น้อมรับต่อทางนำของพระองค์ ได้ประทานคู่คิดที่มีจิตใจคงมั่นในแนวทางเดียวกัน กอลบูมุอมินที่ซึมซับหลักธรรมของพระเจ้า อันเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขสันต์ ความรัก และความเอื้ออาทร (สากีนะห์,มูฮับบะห์ & เราะห์มะห์) ที่จะอยู่คู่กับจิตใจของเขาและเธอตลอดไป

ความรัก ความไว้วางใจกัน ความอดทน ความเสียสละ และอื่น ๆ จะเป็นเสาหลัก ที่จะสร้างความแข็งแรง และมั่นคงให้กับนาวาชีวิต

เพราะฉะนั้น จงเชื่อเถิดว่า ทุกอย่างที่เราได้ครอบครองมา ความสำเร็จทุกประการที่มีมา และความภาคภูมิใจทุกอย่างที่เราได้รับมา หาไช่เป็นเพราะความสามารถเฉพาะตัวของเราเองไม่ หากแต่เป็นเพราะแรงผลักดันสำคัญที่เกิดขึ้นภายในบ้าน จากที่ที่เรานอน จากโต๊ะที่เรารับประทานอาหาร จากสภาพต่างๆ ในรอบข้างที่คอยเกื้อหนุนให้เราเดินหน้าต่อไปกับภาระกิจที่เราตั้งใจให้ก้าวไปสู่จุดที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เท่าที่เราต้องการ.

มาดแม้นว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้น ก่อนการแต่งงาน เราก็ควรซูโกรต่ออัลเลาะห์ ที่ในวันนี้ พระองค์ได้ประทานหัวใจอีกดวงหนึ่งที่มาเคียงคู่กับเรา อย่ามองว่าเขามาเพื่อที่จะพึ่งพาหรือมารับส่วนแบ่งในความสำเร็จ เพราะนั้นเป็นลักษณะของคนบาคิล คนหยิ่งผยอง แต่ให้มองว่าเขาคือความรัก เขาคือคนที่ทำให้เรามองโลกได้รอบด้านขึ้น เขาทำให้เราได้สำนึกในตัวตนตลอดเวลา ทำให้เราไม่ลืมตัวเอง อันอาจจะทำให้เราก้าวพลาด และล้มลงไปในหุบเหวแห่งความหายนะในที่สุด

ถึงแม้นว่าจะมีบางคู่ที่ต้องอยู่กับความขัดสน ขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานบางประการ เราก็ต้องซูโกรต่ออัลเลาะห์ ที่ได้ประทานสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่อาจประเมินเป็นค่าราคาได้เลย นั้นคือหัวใจที่จงรักภักดีของเขา ที่พร้อมยืนหยัดเคียงข้างกับเรา แม้ว่าจะอยู่ในท่ามกลางความอ่อนด้อย และขาดแคลนในหลายๆ ประการ แต่เขาก็ยังคงยืนอยู่เคียงข้างกับเราด้วยจิตใจที่เข้มแข็งไม่หวั่นไหวต่อสิ่งท้าทายที่มีอยู่รอบข้าง ยิ่งเราต้องประสบกับความยุ่งยากในชีวิตมากขึ้นเพียงใด เขาก็จะเข้ามาใกล้ชิดแนบนิดกับเรามากขึ้นเท่านั้น. จงอย่าได้คิด แม้แค่ซักนิดเลยว่า ที่เราเป็นอย่างนี้ ก็เพราะแต่งงานกับเขา.

ท่านเคยรู้สึกเสียใจกับการแต่งงานของท่านไหม ? แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ขมขื่นใจอย่างยิ่งที่จะยอมรับกับสภาพความไม่ปกติสุขในครอบครัว ครอบครัวขาดความรัก และความเอื้ออาทรต่อกัน ความรักที่เคยมีเป็นแต่เพียงแค่ฉากมายาสั้น ๆ ที่ขาดผึงลงไปแล้ว คำมั่นสัญญาเป็นแต่เพียงคำพูดที่ลอยลม และหายไปกับสายลมไปแล้ว แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ???? โอ้พี่น้องของฉัน เชื่อไหมว่าเบื้องหลังของความทุกข์ระทม อาจจะมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่รอเราอยู่ เบื้องหลังความเจ็บปวดและรวดร้าว อาจจะมีฮิกมะห์สำคัญที่เราคาดคิดไม่ถึงที่จะเป็นของเรา มีมนุษย์จำนวนไม่น้อยที่ถูกทดสอบความดีงามของเขา ด้วยความทุกข์ยากต่าง ๆ นานา แต่เมื่อเขาได้ผ่านการทดสอบแล้ว เขาก็คือบุคคลผู้ใกล้ชิดกับพระเจ้าเป็นอย่างยิ่ง.

อัลเลาะห์ผู้ทรงยิ่งในความรัก ผู้ทรงยิ่งในความเมตตา ความเจ็บปวดที่มีในวันนี้ อาจจะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่รออยู่ข้างหน้า. ความอดทนเป็นส่วนหนึ่งของอีหม่าน. วัลเลาะฮูอะลัม บิศศอวาบ.

Monday, October 24, 2011



เสพติดเซกซ์


(เป็นภาพประกอบเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาตามบทความนี้ใดๆ ทั้งสิ้น)


มีหลายเรื่องในโลก ที่เป็นความตกต่ำ และความเสื่อมเสีย ที่ไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งในทางศาสนา ทั้งในค่านิยมทางสังคมทั่วไป แต่สิ่งนี้ถูกใส่ใจน้อย หรือบางสังคมคิดว่า ไม่น่าจะมีเรื่องเหล่านี้ในสังคมตนเอง โดยเฉพาะสังคมมุสลิม

เราแน่ใจแล้วหรือว่า สังคมมุสลิมไม่มีปัญหาทางเพศก่อนเวลาอันควร ? และถ้ามี เรามั่นใจหรือว่า ความสัมพันธ์ทางเพศที่เกิดขึ้น จะไม่เกิดปัญหาต่อเนื่องอีกสารพัดสารพันตามมา ?

ต่อไปนี้เป็นเรื่องของเธอผู้หนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นเพียงแค่หนึ่งในร้อย หรือหนึ่งในพัน หรือ....? ดังนี้

ชีวิตฉันรู้สึกเจ็บปวด และรวดร้าวเหลือเกิน กับเส้นทางชีวิตที่ผ่านมา และที่กำลังจะดำเนินต่อไป

จุดเริ่มต้นของความเละเทะในชีวิตฉัน ก็มาจากคนที่ฉันรัก คนที่ฉันหวง เขาเป็นชายคนแรกที่เข้ามาในชีวิตฉัน และเมื่อฉันเผลอใจ เขาก็ทำมิดีมิร้ายกับฉัน และเมื่อครั้งแรกผ่านไป ฉันก็มิอาจจะทัดทานใดๆ กับความต้องการของเขาหลังจากวันนั้น ซึ่งก็เกิดขึ้นบ่อยมาก เกือบจะทุกเวลาที่พบกัน เขาจะหาโอกาสทำทุกครั้ง และฉันก็ปล่อยตัวเองให้เขาทุกเวลา แต่แล้วเพียงแค่ไม่กี่เดือน เขาก็ทิ้งฉันอย่างไม่ใยดี

ฉันเจ็บปวดได้ไม่นาน ก็มีผู้ชายคนใหม่เข้ามาอีก เขาสุภาพและเอาใจฉันเก่งมาก เขาสัญญาว่าจะแต่งงานกับฉัน และเราก็แอบนัดพบกันตลอด และทุกครั้งที่พบกัน ฉันก็ต้องสนองตอบต่อความต้องการของเขา อย่างไม่มีกะจิตกะใจใดๆ ที่จะปฎิเสธิ แต่แล้วไม่นาน ฉันก็ได้รู้ว่าเขากำลังจะแต่งงานกับหญิงที่ครอบครัวเขาได้เลือกให้แล้ว โดยที่เขาไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้ฉันได้รู้เลย แต่ก็ทำให้ฉันได้รู้ว่า นี่แหละผู้ชาย เห็นผู้หญิงเป็นแค่ทางผ่านเพื่อความสำราญในชีวิตทางเพศ เท่านั้นเอง

ฉันเกลียดผู้ชาย แต่อารมณ์ของฉันกลับร่ำร้องเรียกหา อยากได้ผู้ชาย ชีวิตฉันขาดผู้ชายไม่ได้ วันนี้ฉันได้ติดอยู่ภายใต้กับดักแห่งนัฟซูตนเอง บางครั้งฉันแทบจะคลั่ง ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร...

ฉันอายุ 21 ปี ฉันได้เตาบัต และอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเอง แต่รู้สึกยากเย็นเสียเหลือเกิน เมื่อใดที่ฉันได้ยินข่าวคราวการแต่งงานของใคร ฉันรู้สึกอิจฉาเขา รู้สึกชิงชัง และคิดเสมอว่า ทำไหมฉันจึงไม่เป็นแบบเขาด้วย

ข้อความข้างต้นเป็นหนึ่งในปัญหาทางเพศ ซึ่งเชื่อว่ามีมากในสังคมปัจจุบัน ทั้งในแบบเดียวกันนี้ หรือในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน ที่เหล่าชนผู้ศรัทธาทั้งหลาย จะต้องร่วมรับรู้ ร่วมใส่ใจ และร่วมคลี่คลาย....


Tuesday, August 23, 2011

ม่านใย มายา แห่งยอดหญิงคลีโอฟัตรา (1)

เป็นภาพประกอบเท่านั้น


“…..จงมั่นใจเถิด ผู้หญิงคนนั้นต้องสามารถทำให้ลูกมีความสุขอย่างแน่นอน แม่ปิดท้ายคำพูดของตนเอง หลังจากที่เห็นผมทำท่าเบื่อหน่ายที่จะฟังคำแนะนำเกี่ยวกับว่าที่ภรรยา ที่คุณแม่ได้จัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ


แม่ได้บอกกับผมว่า ตั้งแต่แม่รู้ว่าแม่มีท้องแล้ว คุณแม่ได้จัดคู่ให้กับผม เธอคนนั้นผมรู้แต่เพียงชื่อ คือไรฮานา ส่วนหน้าตาเป็นอย่างไร ความเป็นอยู่ของครอบครัวเป็นแบบไหน ผมยังไม่ทราบเลย

แม่ของไรฮานา เป็นเพื่อนสนิทกับแม่ผม ผมรู้จากที่คุณแม่ได้เล่าให้ผมฟัง ทั้งแม่ผมและแม่ของไรฮานา เป็นเพื่อนน้ำมิตรที่รักใคร่ประดุจญาติพี่น้อง นับตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนหนังสือ เข้าอยู่ปอเนาะ ก็อยู่ด้วยกันไม่เคยห่าง

แม่บอกว่าก่อนจะออกจากปอเนาะ เราสองคนได้ทำสัญญาใจต่อกันว่า ถ้าแต่งงานและได้ลูกต่างเพศกัน เราจะให้ลูกของเราได้แต่งงานด้วยกัน แล้วเพื่อนของแม่ก็ได้ลูกสาว แม่หวังว่าลูกคงจะเข้าใจแม่

แม่พูดเชิงบังคับ ให้ผมต้องตกลงในสิ่งที่ผมไม่ได้รู้เรื่องใด ๆเป็นไปได้ไง ที่ผมต้องไปแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รู้จักกันเลย และดูท่าแม่จะไม่ยอมให้ผมแต่งงานกับหญิงอื่นโดยเด็ดขาด

ชีวิตของผมอยู่ในโอวาทของแม่มาโดยตลอด ไม่เคยแม้สักครั้งเดียวที่ผมผิดคำพูดกับแม่ ทุกอย่างที่แม่พูด ก็คือทุกอย่างที่ผมน้อมรับและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แม่ไม่เคยเสียใจใด ๆ กับผม

ผมได้สัญญากับตนเอง ชีวิตผมจะไม่ทำให้แม่ต้องหลั่งน้ำตา หรือเสียใจใดๆ ไม่ว่าจะเป็นวันนี้ หรือวันไหน ๆ ผมตอบรับการร้องขอของแม่ แม้ว่าในความเป็นจริงผมต้องการอีกอย่างหนึ่ง.

2. วันสู่ขอ และแต่งงาน...

บังเชื่อน้องซิ ไรฮานาสวยมากเลยนะ สวยจริงๆ รับรองได้เห็นครั้งแรกบังต้องติดใจคำพูดแย่ๆ จากอารีนา น้องสาวผม ใจจริงน้องคงต้องการสร้างกำลังใจแก่ผม โดยหารู้ไม่ว่าคำพูดแบบนี้ แท้จริงแล้วเป็นการหักหาญน้ำใจผู้ชายมากกว่า

ผู้ชายไม่ได้มองผู้หญิงที่ความสวยเสมอไป และความสวยของผู้หญิง ไม่ใช่จำกัดอยู่แค่รูปร่างหน้าตา หากแต่ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่ผมคิดว่ามีความสำคัญยิ่งไปกว่าเรื่องของรูปร่างหน้าตา

น้องสาวผมยังพูดอีกว่าไรฮานาเป็นนักกิจกรรมในชมรมมุสลิมที่ขยันขันแข็งมาก แถมยังเรียนเก่ง ได้เกียรตินิยมซะด้วย มีผู้ชายหลายคนแล้วนะ ที่พยายามเข้าหาเธอ แต่เธอไม่เอาด้วย ถือเป็นความโชคดีของบังแล้วนะ….”

เงียบ...!ผมดุน้องสาว

ในช่วงที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกัน ผมก็มีโอกาสได้เห็นและพูดคุยไม่กี่คำกับไรฮานา เธอสวยจริงๆ แต่ไม่ตรงกับความคิดของผม และรูปร่างหน้าตาของเธอ ก็ไม่มีส่วนชักนำให้ผมเกิดความรู้สึกรักต่อเธอเลยแม้ซักนิด


วันนิกาห์ได้ถูกกำหนดไว้ในไม่กี่วันข้างหน้านี้ คนที่ดีใจที่สุดน่าจะเป็นแม่กับน้องสาว ส่วนผมแม้จะพยายามทำใจให้ยอมรับให้ได้ ทำให้เกิดความรู้สึกรักต่อไรฮานา ให้ได้ แต่ดูเหมือนจะไม่มีผลอะไร ใจส่วนลึกยังคิดที่จะถอนตัว แต่เพื่อแม่ ทุกอย่างผมก็ต้องปล่อยให้ล่วงเลยตามแต่แม่ต้องการ

ในวันแต่งงาน ทางครอบครัวของไรฮานา ได้จัดงานอย่างใหญ่โต เชิญแขกมาร่วมงานจำนวนมาก แต่ละคนดูท่าทางมีความสุขและประทับใจกับงานสำคัญยิ่งนี้ โดยเฉพาะไรฮานา ผมสังเกตเห็นเธอยิ้มระรื่นตลอด เธอคงมีความสุขและประทับใจกับงานของตนเองใน วันนี้ เธอคงไม่รู้ซินะว่าผู้ชายที่เธอแต่งงานด้วยคนนี้ ไม่ได้มีใจให้กับเธอเลย แม้ซักนิดเดียว

ใจผมล่องลอยไปต่างประเทศ อียิปต์คือที่ๆ ผมร่ำเรียนมา เธอคนหนึ่ง ณ ที่นั้น ที่ผมห่วงหา ..

ยอดหญิงในประวัติศาสตร์ อันมีนามว่าคลีโอฟัตรา แม้ว่าผมไม่รู้มากนักในตัวตนของหญิงผู้นั้น นอกเสียจากความเป็นคนที่มีเสน่ห์แรงกล้า สามารถรัดรึง ผู้คนให้น้อมนำตามแต่สิ่งที่เธอต้องการ ด้วยเสน่ห์ของเธอได้สร้างประวัติศาสตร์อันเกรียงไกรต่อชนชาติอียิปต์

นับจากวันแรกที่ได้ไปเรียนหนังสือที่อียิปต์ ผมเหมือนคนที่ต้องมนต์กับหญิงสาวอียิปต์คนหนึ่ง ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าเธอ ผมรู้สึกเหมือนโลกของผมได้จบลงแล้ว เธอคือทุกอย่างสำหรับชีวิตผม ความคิดในบางครั้งบางคราวบอกกับตัวผมเองว่า มาดแม้นว่าชีวิตผมต้องดับดิ้นไปเพราะเธอ ผมก็จะไม่พะวักพะวงหรือรีรอใด ๆ ผมพร้อมจะกระโจนเข้าหา แม้จะประจักษ์ชัดแล้วว่า นั้นคือวาระสุดท้ายของชีวิตแล้วก็ตาม

แน่นอนหญิงสาวอียิปต์คนนั้น คือคลีโอฟัตราสำหรับใจผม ที่ชีวิตผมต้องน้อมรับต่อทุกอย่างเพื่อเธอ และสำหรับเธอ....

- ยังมีต่อ -

ภาพหญิงวัยรุ่นอียิปต์ปัจุุบัน (ภาพประกอบเท่านั้น)

ม่านใย มายา แห่งยอดหญิงคลีโอฟัตรา (2)

ป็นภาพประกอบเรื่องเท่านั้น


3. ชีวิตจริง โลกแห่งความเป็นจริง

งานแต่งได้ผ่านพ้นไป ผมได้พยายามอย่างที่สุดเพื่อให้ดูดี เพื่อแม่จะได้ไม่ผิดหวัง แม้จะรู้ตัวเองดีว่า นี้คือละครชีวิตที่ไม่รู้ว่าผมจะเล่นได้อีกนานแค่ไหน

ชีวิตผมในวันนี้ คู่กับเธอหญิงสาวคนหนึ่งผู้อยู่ในฐานะภรรยา ที่ผมกำลังพยายามอย่างที่สุด เพื่อให้เกิดความรู้สึกรักต่อเธอบ้าง แต่ก็รู้สึกว่าจะเหนือความสามารถ เพราะยิ่งพยายามเพียงใด ดูเหมือนความชิงชังจะมีมากขึ้นเท่านั้น

ชีวิตระหว่างเพศที่ผมจำต้องฝืนทำให้มีความสุขด้วยกัน แต่ก็ไม่ใช่ด้วยความรัก หลายวันเข้า มันก็เป็นไปอย่างเฉื่อยชา ไร้ซึ่งมธุรสใดๆ ผมสงสารเธอมาก แต่ผมก็ไม่สามารถเอาชนะตนเองได้ ภาพของ คลีโอฟัตรายังคงเวียนว่ายอยู่ห้วงลึกของจิตใจผม จนไม่รู้จะหาวิธีสลัดทิ้งลงไปได้อย่างไร

ช่างลำบากยิ่งหนักในการดำรงชีวิตครอบครัว ที่ไม่ได้มีความรักให้กัน ยามกิน ยามดื่ม ยามนอน คู่กับมัคลุกเพศหญิงอันมีนามว่าไรฮานา ผู้มาในฐานะภรรยา แต่คำว่ารักสักคำผมก็ไม่เคยมีให้เธอ

น้ำเสียงอันอ่อนนุ่มของเธอ ก็ไม่ได้มีผลใดๆ ต่อความรู้สึก ใบหน้าอันขาวนวลใสและดูเปล่งปลั่ง ก็ไม่ได้มีส่วนในการน้อมนำใจผมให้เคลิบเคลิ้มหรือมีเสนหา.... มาซาอัลเลาะห์ อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปสำหรับชีวิตนี้

4 เดือนผ่านไป ความเบื่อหน่ายเกาะกุมจิตใจมากขึ้นทุกขณะ ผมคิดจะเอาชนะตัวเองให้ได้ ผมรู้สำนึกในความผิดบาปของตนเอง และผมต้องลบล้างความรู้สึกเช่นนี้ให้ได้ ผมจะรังเกียจต่อใครไม่ได้ ยิ่งต่อเธอไรฮานา ภรรยาของผม ที่ผมต้องรัก ต้องดูแล ต้องใส่ใจ...

เดือนที่ 5 โรคเครียดเริ่มเกาะกุมเข้ามาในใจผม ชีวิตในแต่ละวันกับเธอไรฮานา ผมได้สื่อสารกับเธอแค่ไม่กี่คำ ผมพูดให้ผ่านๆ ไป ซึ่งนั้นก็ภายหลังจากที่เธอได้พยายาม พูดคุย สร้างความใส่ใจต่อผม เท่าที่ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง พึงกระทำต่อสามี

การกิน การนอนของผมไม่ค่อยจะเป็นเวลาแล้ว บ่อยครั้งผมเลือกที่จะนอนบนโต๊ะเขียนหนังสือ หรือไม่ก็บนเก้าอี้โซฟา ในห้องรับแขก

ผมรู้สึกชีวิตช่างเคว้งคว้าง นึกทุเรศตัวเอง อุตสาห์ไปร่ำเรียนถึงต่างประเทศ แต่ดูเหมือนเป็นคนไร้ความสามารถ กับคู่แต่งงานที่ว่างเปล่า และ ชีวิตผมก็คือความว่างเปล่า

ไม่ใช่ผมที่ทรมาน หากแต่เธอ ไรฮานา ก็มีความทรมานที่ไม่แพ้กัน แต่เธอก็เป็นคนเก่ง ความที่เป็นคนมีการศึกษา และครอบครัวเลี้ยงดู อบรมมาอย่างดี เธอจึงสามารถประคับประคองเพื่อไม่ให้ทุกอย่างล้มเหลวมากยิ่งกว่านี้ แต่นี้ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ชายเช่นผมในฐานะสามี ที่ต้องรับผิดชอบในครอบครัวมิใช่หรือ ?

ผมกำลังต่อสู้กับตนเอง ระหว่างสามัญสำนึก การศึกษา กับภาวะทางใจ

4. เปิดอก แต่ทำลายจิตใจ

เธอหาโอกาสได้พูดคุยอย่างเปิดอก กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมก็เลี่ยงตอบไปว่าไม่มีอะไรหรอกคุณ ผมยังเด็กอยู่ ยังปรับตัวเข้ากับชีวิตแบบใหม่ๆ ไม่ได้ ขอเวลาศึกษาชีวิตครอบครัวอีกระยะหนึ่ง ทุกอย่างคงดีขึ้น

เธอแสดงอาการไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของผม เธอตอบว่า

หลายเดือนที่อยู่ด้วยกัน บังไม่เคยพูดถึงรักแม้ซักครั้งหนึ่งแม้แต่ชื่อก็ไม่เคยเรียกฮานา ได้ยินแต่คำว่า คุณๆๆ แต่นั้นก็นาน ๆ ครั้ง

บังไม่ได้รักฮานาเลยหรือ

ผมตอบไปว่าวัลเลาะฮูอะอลัม

เราเงียบกันครู่ใหญ่ และแล้วผมก็สังเกตเห็นน้ำตาเธอไหล่อาบสองแก้มตกกระทบพื้น แล้วเธอก็เข้ามากอดขาผม แล้วพูดว่าถ้าบังไม่สามารถรับฮานาในฐานะภรรยาได้ แล้วบังร่วมในอิญาบ-กอบูล ทำไม ?

ถ้าบังไม่พอใจในตัวฮานา ทำไมบังไม่พูดออกมา ฮานาผิดตรงไหน ฮานาบกพร่องอย่างไร บังพูดมาซิ


บังต้องการให้ฮานาทำตัวอย่างไร ให้บังพอใจบังก็น่าจะบอก

ฮานาอยากให้บังได้เปิดใจให้กว้างซักนิด พิจารณาทุกอย่างตลอดระยะเวลาที่เราได้อยู่ร่วมกันมา เราเป็นเสมือนสามี-ภรรยา ทั่วๆ ไปไหม ?

ไรฮานา ได้จบคำพูดอันยาวเหยียดของตนเอง โดยที่ผมไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะรู้ดีว่า ไรฮานา ไม่มีอะไรผิด เธอไม่ได้บกพร่องสิ่งใด

แต่คำพูดของไรฮานา ก็ได้เพิ่มความรวดร้าวใจให้กับผมมากขึ้น ผมไม่ได้โกรธเธอ แต่ผมเศร้าใจตนเอง ชีวิตช่างเคว้งคว้าง ไม่มีแหล่งพักพิงทางใจ

ผมตระหนักในความดีของไรฮานา แต่ผมไม่อาจจะมีใจให้กับเธอ ภาพของคลีโอฟัตรา ยังคงเวียนว่ายในห้วงคำนึง โดยไม่มีท่าทีจะจืดจางไป

ม่านใย มายา แห่งยอดหญิงคลีโอฟัตรา (3)

5. ฝันเห็นคลีโอฟัตรา


เย็นวันนี้ ผมกลับจากโรงเรียนท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักมาก ถึงบ้านก็เกือบหมดมักริบแล้ว ผมรู้สึกปวดหัวอย่างมาก เหมือนจะเป็นไข้ เรี้ยวแรงเกือบจะหมดสิ้น การเคลื่อนไหวของร่างกายก็เป็นไปอย่างยากลำบาก

ไรฮานา ประคองผมเข้าบ้าน ดูเธอแสดงท่าทีที่ห่วงใยต่อผมมากเมื่อเห็นผมตัวสั่นเธอก็อาสาต้มน้ำอุ่นให้ผมอาบ และทำถั่วต้มให้ผมกิน

ถั่วต้มเป็นอาหารโปรดของผม และเป็นอาหารชนิดเดียวที่ผมสามารถกินได้ในทุกช่วงเวลา

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจผมก็เข้าห้องนอนทันที ไรฮานาเข้ามาถามถึงอาการพร้อมกับบีบและนวดตามตัวผม สติปัญญาของผมตอบสนองต่อสิ่งภายนอกได้ไม่มากนัก ได้ยินเพียงคำพูดบางคำของไรฮานา ที่แสดงถึงความห่วงใยต่อผมอย่างลึกซึ้ง หลังจากนั้นผมก็เห็นเธอผละจากผมไปอ่านอัลกุรอาน เธออ่านได้ดีมาก เธอออกเสียงได้ถูกต้อง ไม่มีติดขัดตรงไหนเลย ....

ไรฮานาเธอเป็นผู้หญิงที่ดีมาก แต่ใจผมไปไกลถึงต่างแดน ยังห่วงหา และอาลัยอาวรณ์ต่อเธอคลีโอฟัตรา


วันนี้ผมได้รับเชิญร่วมรับประทานอาหารค่ำที่บ้านของเธอ ผมไปก่อนเวลาเล็กน้อย บ้านเธอหรูหราใหญ่โตราวกับวัง คนในบ้านเธอพาผมเที่ยวชมสวนหย่อมและสัตว์เลี้ยงสวยงามหลายชนิด ที่เธอเลี้ยงไว้ภายในบริเวณบ้าน

แค่ภายนอกของบ้านก็จัดได้สวยงามและหรูหราขนาดนี้ แล้วในบ้านล่ะจะขนาดไหน ผมรำพึงอยู่ในใจ ด้วยความรู้สึกเพลิดเพลินอย่างยิ่งกับอาณาบริเวณโดยรอบ

และในทันใดนั้นก็มีคนในบ้านเธอออกมาเรียกผม โดยบอกว่าทุกคนในบ้านกำลังรออยู่ที่ห้องอาหาร

ผมไม่รอช้า ก้าวเท้าเดินตามคนในบ้านเธอทันที ผมคิดในใจว่า เธอคงจะเห็นด้วยและตกลงกับผม และครอบครัวเธอก็คงจะยินดีด้วย เพราะหากมิเช่นนั้น พวกเขาคงไม่ชวนผมมาที่บ้านแน่ๆ

ผมดีใจจนสุดจะบรรยาย ตัวสั่นและเดินไม่ค่อยจะเป็นจังหวะ อีกแป๊บเดียวผมจะได้พบกับเธอแล้ว ยิ่งเข้าใกล้ห้องเธอ ผมก็ยิ่งตื่นเต้นและตัวสั่นมากขึ้น และเมื่อถึงประตูห้อง....

บังๆๆ ตื่นเถิด ตอนนี้ตีสี่ครึ่งแล้ว บังยังไม่ละหมาดอีซา เลย

ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา โอ้เราฝันไปหรือนี่ ผมรู้สึกเคืองไรฮานานิดๆ ที่รบกวนเวลาสำคัญ แต่ผมก็ต้องลุกขึ้น

แม้ว่านั้นเป็นเพียงความฝัน แต่ฝันนั้นช่างสวยงามมาก แต่แล้วไรฮานาก็มาตัดความฝันอันเจิดจรัสของผมไป ทำให้ผมยิ่งไม่พอใจในตัวไรฮานามากขึ้น แต่เธอก็ไม่ผิด เธอได้พยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว

มาอัฟเถิดบัง หากบังไม่พอใจ แต่บังยังไม่ละหมาดอีซา นี่ก็เกือบเข้าซุบฮิ์แล้วเธอบอกกับผม ในขณะที่เธอยังอยู่ในชุดตาลือกง เธอคงจะละหมาดกลางคืน

ชีวิตผมเหมือนคนที่ต้องขัง ภายใต้อาถรรพ์ของคลีโอฟัตรา

ซึ่งไม่รู้ว่าจะออกไปได้อย่างไร แม้หญิงที่อยู่ข้างผมตอนนี้จะดีขนาดไหน แต่ม่านใยจากคลีโอฟัตรา สลักแน่น จนมิอาจจะ สลัดทิ้งไปได้


บัง บ่ายวันนี้ มีงานเลี้ยงอากีเกาะห์ ที่บ้านจูมะห์ ทุกคนในครอบครัวเราจะไปพบกันที่นั้น รวมทั้งแม่บังด้วย งานนี้เราต้องไป เพราะหากเราไม่ไป ในขณะที่คนอื่นอยู่กันครบ จะไม่ดีมากเลยเธอบอก พร้อมกับวางถ้วยน้ำชาให้กับผม


ตกลงผมจะไป แล้วเธออย่าเครียดหรือวิตกกังวลใดๆ กับเรื่องของบัง บังหวังว่าฮานาจะมีความสุข

ถ้อยคำแรกที่ผมพูดกับไรฮานา ในเช้านี้ ดูเธอยิ้มระรื่นเพราะเป็นครั้งแรกที่ผมพูดด้วยถ้อยคำอย่างนี้ ด้วยความตระหนักในความดี และความจริงใจจากเธอ

- ยังมีต่อ -

ม่ายใย มายา แห่งยอดหญิงคลีโอฟัตรา (4)

6. ความสุขของไรฮานา

ไรฮานา หญิงสาวที่แต่งกายมิดชิดมาโดยตลอด เธอเป็นผู้หญิงที่พิเศษมาก เธอมีความอดทนเป็นยอด เธอทำหน้าที่ในฐานะภรรยาได้อย่างน่ายกย่อง ไม่มีแม้เพียงจุดเล็กๆ ที่จะนำมาติติงได้เลย

ไม่เคยปรากฏเธอแสดงสีหน้าบึงตึง หรือแสดงความโกรธ หาก แต่ใบหน้าเธอจะยิ้มโดยตลอด ไม่ละเว้นแม้แต่ในช่วงที่หลับ มีเพียงแววตาเท่านั้นที่บางครั้งฉายแววของความเศร้าหมอง

เธอไม่เคยแสดงกริยาชิงชังใดๆ ต่อผมเลยแม้ซักครั้งเดียว ในทางกลับกัน ผมต่างหากที่ยังไม่สามารถทำใจยอมรับกับเธอได้

ที่บ้านจูมะห์ ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของชีวิตคู่ระหว่างผมกับ ไรฮานา และทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ไรฮานาได้บอกก่อนที่จะเดินทางมา ญาติใกล้ชิดทุกคนทั้งในฝ่ายไรฮานา และฝ่ายผม รวมทั้งคุณแม่และน้องสาวผมก็มาด้วย

ทุกคนได้ให้ความสำคัญกับผมและไรฮานามาก ในฐานะที่เป็นคู่แต่งงานล่าสุดในบรรดาญาติพี่น้องของทั้งสองครอบครัว ทุกคนได้ให้ความรักและความใส่ใจกับผมและไรฮานาเป็นพิเศษ

ไม่ทันที่จะได้นั่งติดพื้น จูมะห์และลูกๆ ของเขาก็ได้มานั่งหน้าผม ซึ่งก็มีไรฮานา นั่งข้างๆ ถัดไปก็เป็นแม่ผม และแม่ของไรฮานา
คำพูดต้อนรับผมจากจูมะห์ทำให้ผมต้องสะอึก เพราะความเข้าใจของญาติพี่น้อง กับความเป็นจริงในระหว่างผมกับไรฮานานั้น ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“ดีใจมากนะที่มากันในวันนี้ พวกเราในบ้านทุกคน รวมทั้งญาติ ต่างก็เฝ้ารอที่จะได้พบกับคู่แต่งงานที่ดีที่สุด คู่แต่งงานตาม อุดมคติ คู่แต่งงานที่อยากให้ลูกหลานได้เอาเป็นแบบอย่าง....”

ลูกๆ และญาติจูมะห์ได้เข้ามาสลามและยิ้มด้วยไมตรีจิตที่ล้ำลึก

ผมสังเกตเห็นไรฮานายิ้มแย้มแจ่มใส ตาเป็นประกายด้วยความสุข และความประทับใจในไมตรีจิตอันดีเยี่ยมที่ญาติพี่น้องได้ให้มา และชื่นชมในชีวิตคู่ของเรา

ไรฮานา ดีใจ แต่ผมเศร้าใจ ในใจผมร่ำให้ เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่คนภายนอกมอง กับสิ่งที่เป็นจริงในครอบครัวผมไม่ตรงกันเลย ทุกอย่างเหมือนอยู่กันคนละขั้ว

ทำไมเขาต้องมองว่านี่คือคู่แต่งงานในอุดมคติ และควรเป็นแบบอย่าง เพราะผมจบจากนอกนั้นหรือ ? เพราะไรฮานาได้เกียรตินิยม แถมยังมีบุคลิกภาพที่ดี และมีอีหม่านที่เข้มแข็ง กระนั้นหรือ ?

รักแท้ที่บริสุทธิ์คงไม่ง่ายนักที่จะเกิดขึ้นกับใคร อิบนูฮัซมิ และภรรยา คือตัวอย่างของชีวิตคู่ที่เปี่ยมด้วยความรัก ต่างคนต่างรักกัน โดยไม่มีสิ่งใดๆ มาสั่นคลอนลงได้ เป็นความรักที่ยืนยงคู่กับชีวิต ความรักที่บ่มเพาะและก่อเกิดเป็นความสุขในคู่ของตนเองอย่างยั่งยืนชั่วชีวิต

แต่สิ่งนี้ไม่มีในตัวผม ผมไม่ได้มีความรักต่อไรฮานา เหมือนกับที่ไรฮานามี

การต้อนรับจากคนในบ้านนี้ชั่งยิ่งใหญ่ในความรู้สึก แต่ด้อยค่าเมื่อเทียบกับความเป็นจริงในตัวผม แต่ที่นี้ก็ทำให้ผมได้เห็นถึงความพิเศษของไรฮานาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเธอได้พูดดีและยกย่องผม เธอปกป้องผมทุกอย่างเพื่อไม่ให้คุณแม่ผม และแม่ของเธอเองต้องรู้สึกลำบากใจ

นอกจากเธอจะไม่พูดถึงความบกพร่องในตัวผมแล้ว เธอกลับกล่าวยกย่อง และบอกให้ทุกคนในญาติพี่น้องว่า “เธอประทับใจและมีความสุขมากที่ได้มาเป็นภรรยาของผม”

ผมรู้สึกละอายตนเอง และลำบากใจเป็นทวีคูณเมื่อทั้งคุณแม่ผมและแม่ของไรฮานา ได้พูดถึงซูรียะห์ ทุกคนอยากจะได้อุ้มหลานเร็วๆ

ผมเงียบและแกล้งมองไปทางอื่นเสีย แต่ไรฮานากลับเข้ามาใกล้ชิดกับผมและจับแขนพร้อมกับบอกว่า “ไม่นานหรอกแม่ ยังไงก็ช่วยดุอาอให้หนูด้วย”

7. ไรฮานาตั้งครรภ์

เหตุการณ์ที่บ้านจูมะห์ ทำให้ผมต้องคิดหนัก ยังไงๆ ผมก็ต้องทำดีต่อไรฮานา แม้ไม่ไช่บนพื้นฐานของความรักก็ตาม เพราะผมไม่ได้รักเธอเลย การแต่งงานก็เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เป็นความประสงค์ของครอบครัว ไม่ไช่ความต้องการของผม
และแล้วไรฮานาก็ตั้งท้อง ซึ่งช่วงนี้ก็ดูเธอสดใสมากขึ้น เธอได้นำเรื่องนี้บอกกล่าวกับทุกคนๆ ล้วนดีใจและแวะมาเยี่ยมที่บ้านหลายคน นี่ขนาดแค่ตั้งท้อง ถ้าเกิดคลอดเมื่อไร คงจะเป็นข่าวใหญ่สำหรับพวกเขาแน่

จนถึงตอนนี้ ผมก็ไม่ได้รู้สึกรักเธอเลยแม้ซักนิด ในท่ามกลางความสุขของเธอ แต่ใจผมกลับรู้สึกอ้างว้าง ความชิงชังต่อตนเองได้เข้ามาเกาะกุมจิตใจผมมากขึ้นไปอีก บางเสี้ยวเวลา ก็เกิดคำถามต่อตัวผมเองว่า “ไหนล่ะความรับผิดชอบในชีวิตของผู้ชายเช่นคุณ ?”

อาถรรพ์จากคลีโอฟัตราช่างยิ่งใหญ่ จนผู้ชายคนนี้มิอาจ จะสลัดทิ้งไปได้ เธอคนนั้นยังคงเวียนว่ายในห่วงสำนึกหลอกหลอนทรงจำ.
- ยังมีต่อ -

ภาพจากฐานปิรามิด ทายาทคลีโอฟัตรา ? (ภาพประกอบเท่านั้น)

ม่านใย มายา แห่งยอดหญิงคลีโอฟัตรา (5)

8. ไรฮานากลับไปอยู่กับครอบครัว

และแล้ววันที่ผมรู้สึกสบายใจที่สุดก็มาถึง เมื่อไรฮานาตั้งท้องเข้าสู่เดือนที่ 6 เธอได้ขอกลับไปอยู่กับครอบครัว ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ผมก็ไปส่งเธอถึงบ้าน เพราะครอบครัวเธออยู่ไกลจากบ้านพักผมมาก

ดูเหมือนว่าทุกคนในครอบครัวเธอไม่ได้เฉลียวใจ และไม่คิดถึงความผิดปกติใด ๆ กับความเว้าแหว่งในชีวิตครอบครัวระหว่างผมกับ ไรฮานา และพวกเขาก็ไม่เอะใจเลยที่ผมเลือกที่จะอยู่ที่บ้านพักคนเดียว โดยไม่มีภรรยา

ก่อนกลับไรฮานาได้มาส่งผมถึงรั้วหน้าบ้าน แล้วบอกกับผมว่า บัง ฮานาได้เก็บเงินสะสมไว้จำนวนหนึ่ง เอาไว้ใช้ในตอนคลอด ทั้งหมดได้เก็บไว้ที่ธนาคาร ให้บังไปเบิกได้ด้วยบัตร ATM

ฮานาได้เก็บไว้ใต้หมอน รหัสก็คือวันและเดือนที่เราแต่งงานกัน...

แม้จะข้องใจว่าทำไมเธอจึงไม่พกติดตัว และไม่พากลับบ้าน แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไร

และผมก็ไม่ได้คิดเลยแม้ซักนิดว่า การร่ำลาของเราในวันนั้น และคำพูดของเธอคำนั้น นั้นคือสิ่งสุดท้ายที่ผมจะได้เห็นและฟังจากเธอ

9. ความรวดร้าวของชีวิตผู้ชาย

การได้อยู่บ้านคนเดียว ผมรู้สึกชีวิตโล่งสบายมากขึ้น ไม่มีเธอชีวิตไม่มีสิ่งใดทำให้ต้องรู้สึกลำบาก ชีวิตเคยชินกับการอยู่คนเดียวมาหลายปี โดยเฉพาะช่วงที่อยู่อียิปต์

เวลาผ่านไปนับเดือน ที่ผมอยู่อย่างนี้ โดยลืมสิ้นไรฮานา หญิงผู้เป็นภรรยา

แต่แล้ววันหนึ่ง ฝนตกหนัก เวลาก็เข้ามักริบแล้ว ผมจึงต้องฝ่าฝนกลับบ้าน แต่ไม่ทันได้เข้าบ้านผมก็ล้มฟุบหมดเรี่ยวแรง รู้สึกปวดหัวอย่างแรง คลื่นไส้และอาเจียนหลายครั้ง อาการเดิมได้กำเริบขึ้นมาอีกแล้ว ผมจำต้องรวบรวมกำลังประคองตนเองเข้าห้องนอนให้ได้

ผมคิดถึงไรฮานา ถ้ามีเธออยู่เธอคงจะช่วยดูแลผมได้มาก เธอคงจะช่วยประคองผมให้เข้าบ้าน เตรียมน้ำอุ่นไว้ให้ ทำถั่วต้มให้ผมกิน และช่วยนวดหลัง.

คืนนี้ผมรู้สึกรวดร้าวและทรมานมาก นอนก็ไม่ค่อยหลับร่างกายเจ็บปวด จิตใจร่ำร้องคนช่วยดูแล...

ผมมารู้สึกตัวอีกที เวลาเกือบ 7 โมง ในเช้าวันใหม่ ร่างกายสดชื่นขึ้น แต่เมื่อคืนผมไม่ได้ละหมาดอีซา ในขณะที่ซุบฮิในเช้านี้ ก็หมดเวลาแล้ว ถ้าไรฮานาอยู่ เธอคงไม่ปล่อยให้ผมเป็นอย่างนี้.

10. ชีวิตคู่กับสาวอียิปต์

วันนี้ผมไปโรงเรียนตามปกติ โดยช่วงนี้ผมต้องเข้าคอร์สอบรมภาษาอาหรับ โดยหนึ่งในคณะวิทยากรเป็นศาสตราจารย์ที่เคยเรียนในอียิปต์ และได้รู้จักกับผู้เข้าอบรมที่จบจากอียิปต์คนหนึ่ง เขาเป็นรุ่นพี่ผมหลายปี ....

ความที่จบจากสถาบันเดียวกัน ทำให้ผมสนิทกับเขามาก เขาเล่าถึงประสบการณ์ การใช้ชีวิตคู่ของเขากับผู้หญิงอียิปต์ ซึ่งเขาบอกว่า เป็นความข่มขื่นอย่างยิ่ง

เขาถามผมว่าแต่งงานหรือยัง แล้วแต่งกับผู้หญิงที่ไหน ? ผมก็ตอบตามความเป็นจริง เขาบอกกับผมว่าหวังว่าเธอคงเป็นผู้หญิงที่ดี ปกติเมื่อจบมาจากนอก ทางครอบครัวก็คงจัดหาผู้หญิงดีๆ ให้อยู่แล้ว อย่างน้อยที่สุด ก็ต้องเป็นผู้หญิงที่ผ่านจากโรงเรียนสอนศาสนาในระดับที่ดีๆ มาแล้ว

เขาถามผมอีกว่าภรรยาคุณจบมาจากไหน เรียนศาสนามาบ้างหรือเปล่า ?”

ผมตอบไปว่ารู้ว่าเธอเคยเรียนศาสนา ก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัย และจบมาด้วยเกียรตินิยม

อัลฮัมดูลิลลาห์ คุณเป็นคนที่โชคดีมาก ซึ่งผิดกับผมที่ผิดพลาดอย่างแรงในการตัดสินใจมีคู่

เขาบอกกับผม และก็ทำให้ผมอยากรู้มากขึ้นว่าเป็นอย่างไร

เขาเล่าให้ผมฟังว่าตนเองได้ตัดสินใจผิดพลาดที่เลือกผู้หญิงอียิปต์มาเป็นภรรยา ถ้าไม่เช่นนั้นชีวิตผมคงไม่รวดร้าวอย่างที่เป็นอยู่นี้แน่นอน

เขาบอกอีกว่าคุณก็รู้ดีว่า ผู้หญิงอียิปต์นั้นสวยมากๆ ๆ ชีวิตผมในเวลานั้น หลงกับความสวยงามของผู้หญิงในประเทศนั้น และด้วยความสวยนี้แหละ ที่ทำให้ผมหมดสิ้นทุกอย่างทั้งทรัพย์สิน เงินทองของพ่อแม่ และเกียรติยศของตนเอง พ่อผมเกือบจะเสียสติ ตัวผมเองเกือบจะบ้าไปแล้ว

ดูเพื่อนคนนี้จะอึดอัดกับปัญหาในครอบครัวตนเองมาก ไม่ทันที่ผมจะถามอะไร เขาก็เล่าต่อไปอีกว่า


ผมเกิดมาเป็นลูกคนเดียว จากครอบครัวที่ถือได้ว่าร่ำรวยพอสมควร ผมไปศึกษาต่อที่อียิปต์ ก็ด้วยทุนจากทางบ้าน ในปีแรกที่ผมไปเรียนที่นั้น ผมสอบได้ระดับญัยยิด ซึ่งมีไม่มากนักที่นักศึกษาจากต่างชาติจะสามารถทำคะแนนได้ระดับนี้

และในปีที่สอง ผมก็ได้ไม่น้อยกว่าปีแรก ทำให้เจ้าของบ้านที่ผมเช่าอยู่ เขาประทับใจในตัวผม และเชิญผมไปกินข้าวที่บ้านเขา ในทุกครั้งที่เขาว่าง เขาก็จะเชิญผมไป และตรงนี้เองที่ทำให้ผมได้รู้จักกับลูกสาวเขา

ครั้งแรกที่ผมได้เห็นเธอผมก็ตะลึงเลย เพราะเธอสวยมาก สวยอย่างที่ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนสวยอย่างนี้มาก่อนเลย แต่เธอไม่คลุมผมนะอย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นผมคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ผมต้องแต่งงานกับเธอคนนี้ให้ได้

และผมก็ไม่ได้ตบมือข้างเดียว เมื่อเธอคนนั้น ก็มีใจให้กับผมด้วย และเมื่อเรื่องนี้ได้รู้ถึงพ่อของเธอ พ่อเธอก็เรียกผมให้ไปคุย โดยบอกว่า ให้ผมเลิกติดต่อกับลูกสาวเสีย หรือไม่ถ้าคิดจะรักกันจริงๆ ก็ขอให้ นิกาห์ให้จบๆ ไปเลย แน่นอนว่า ผมต้องเลือกทางที่สองคือ นิกาห์

เมื่อเรื่องนี้ทราบถึงเพื่อนๆ ทุกคน ต่างก็ท้วงติงในเชิงไม่เห็นด้วย โดยพวกเขาบอกให้ผมเลือกผู้หญิงในประเทศจะดีกว่า ทั้งกริยามารยาทที่เรียบร้อย การแต่งกายก็มิดชิด.

ในตอนนั้นผมรู้สึกรังเกียจเพื่อน ผมคิดว่าพวกเขาคงจะอิจฉาผม

ในส่วนของผม ยังไงๆ ผมก็ไม่เปลี่ยนใจ ผมต้องแต่งงานกับเธอให้ได้ และผมก็ได้แต่งงานกับเธอจริงๆ โดยมีค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่ว

นอกจากมะฮัรที่สูงมากแล้ว ผมต้องซื้อบ้านใหม่ให้เธอ ต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้านให้ดูหรูหรา และงานแต่งก็ต้องจัดในโรงแร


ในฐานะที่เป็นลูกคนเดียว ทางบ้านผมแม้จะไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่เมื่อผมยืนกรานจะเอาให้ได้ ทั้งพ่อและแม่ก็จำต้องยอม แม้ว่าต้องขายทรัพย์สินบางส่วนจากทางบ้านไ

และเมื่อจบปริญญาตรี ผมก็ชวนเธอกลับบ้าน โดยขอให้ขายทรัพย์สินทั้งหมดที่ผมซื้อให้เธอในอียิปต์ แต่เธอยืนกรานไม่ยอมขา

เมื่อกลับบ้าน ผมได้สอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในขณะที่เธออยู่บ้านทำหน้าที่ดูแลลูกอย่างเดีย

ช่วงปีแรกที่กลับมาอยู่บ้าน ก็ไม่มีปัญหาอะไร เธอขออะไรผมสนองให้ทั้งหมด และทุกปีผมต้องพาเธอกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่อียิปต์


แต่เมื่อได้ลูกคนที่ 3 ชีวิตครอบครัวของผมก็ต้องลำบากมา

มื่อมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้เท่าดิม และเธอไม่เคยเปลี่ยนแปลง วิถีการดำรงชีวิตเลย เธอไม่เคยประหยัด เธอคิดอยากได้อะไรผมต้องซื้อให้ เพราะหากมิเช่นนั้นเธอก็จะโวยวาย จะอยู่ไม่เป็นสุข ทำเอาบ้านเกือบจะพังไป เธอก็ไม่เคยแคร์ใคร แม้แต่ผมซึ่งเป็นสามี

เมื่อรายได้ไม่เพิ่ม ผมก็ต้องทำงานอื่นเสริม ผมไปทำธุรกิจด้วย โดยขอให้พ่อและแม่ได้ขายทรัพย์สินที่มีเพื่อทำทุน แต่ก็ไม่ประสบความ สำเร็จเลย

เมื่อไม่มีช่องทางใด ๆ ในการเพิ่มรายได้ ผมก็ต้องขอจากพ่อและแม่อีกครั้งหนึ่ง โดยขอให้ขายที่ดินแปลงสุดท้าย เพื่อเพิ่มทุนทำธุรกิจต่อให้ได้ แม้ท่านทั้งสองจะเสียใจแต่ก็ไม่เคยปฏิเสธผม

ชีวิตผมตกอยู่ในภาวะที่ลำบากมาก แต่เธอก็ไม่เคยสนใจใดๆ กับปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัว เธอยังคงเป็นเธอเหมือนเดิม ที่ผมต้องสนองทุกอย่างที่เธออยากได้ หากมิเช่นนั้น บ้านก็จะกลายเป็นนรก

ผมขอให้เธอขายเครื่องประดับที่ผมซื้อให้ออกไปบ้างในบางส่วน เธอปฎิเสธ และเธอก็จะเปรียบเทียบชีวิตเธอกับญาติๆ ของเธอที่ได้สามีเป็นชายอียิปต์ ที่เธออ้างว่ามีความสุขสบายกว่าเธอ

- ยังมีต่อ -