Friday, May 27, 2016

ฉันไม่สวยหรือ





เย็นวันหนึ่ง หลังเลิกงาน จากสำนักงานในตึกสูงแห่งหนึ่ง

หญิงสาวชาวอเมริกันออกอาการหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด เมื่อแต่ละคนต่างออกจากลิฟต์ คงเหลือแต่เธอกับชายชาวมอรอคโค เพียงสองคน เธอต้องลงลิฟต์ไปยังชั้นล่างสุด  เธอกลัวเขาจะทำมิดีมิร้ายกับเธอ อีกทั้งข่าวร้ายๆ ที่เกี่ยวกับการคุกคามทางเพศมีให้ได้ยินมาโดยตลอด

แต่แล้วเธอก็เบาใจลงเมื่อลิฟต์พาลงมาเกือบถึงชั้นที่เธอจะออกไปแล้ว เธอชำเลืองตาไปยังชายหนุ่ม เห็นเขาก้มหน้านิ่ง ไม่มองเธอเลย 

และก่อนออกจากลิฟต์หญิงสาวผู้นั้นก็หันไปถามชายมอรอคโคว่า “ฉันไม่สวยหรือ”

ชายหนุ่มผู้นั้นตอบกลับไปว่า  “ผมจะรู้ได้ไงว่าเธอสวยหรือไม่สวย  เมื่อผมไม่ได้มองหน้าเธอเลย”
เขาตอบ โดยที่ยังก้มหน้าตามเดิม ไม่ยอมมองหน้าหญิงนั้น

“คุณมองยอมมองฉันเลย ฉันไม่สวยละซิ” หญิงสาวถามย้ำ

เขาตอบไปว่า  “ไม่หรอก ในทางศาสนาที่ฉันนับถือมองเธอไม่ได้ครับ”

“ฉันนึกว่าคุณจะรังแกฉัน ฉันกลัวคุณมากเลย” หญิงสาวสารภาพ

ชายหนุ่มตอบกลับว่า  “ผมกลัวอัลเลาะห์”

“เมื่อศาสนาคุณไม่อนุญาตให้มองหญิงอื่น  นั้นก็หมายความว่า ห้ามไม่ให้แตะต้องด้วยไช่ไหม” หญิงสาวตั้งคำถาม

“ไช่ครับ อิสลามให้ผู้นับถือมีกริยามารยาทที่ดี ห้ามพฤติกรรมใดๆ ที่ไม่เหมาะสม แน่นอนว่าการรังแกใครก็ทำไม่ได้”  เขาตอบ

หญิงสาวคิดในใจ เธอรู้สึกโชคดีมากที่ได้รู้จักกับผู้ชายเช่นนี้ นี่แหละชายที่ฉันตามหา ชายที่มีจิตใจดี ทีมารยาทงดงาม ยึดมั่นในคำสอนทางศาสนา แน่นอนว่าผู้ชายเช่นนี้ ย่อมมีความซื่อสัตย์

เธอรวบรวมความกล้า พูดกับเขาอย่างเปิดอกว่า “คุณแต่งงานกับฉันไหม”

แน่นอนว่าการที่จะให้ผู้หญิงเอยปากขอผู้ชายแต่งงานนั้น  คงเกิดขึ้นได้ยาก ยิ่งกับชาวเอเชีย  แต่เธอชาวอเมริกา ไม่ละอายที่จะพูดเช่นนั้น โดยไม่กังวลว่าจะถูกอีกฝ่ายหนึ่งปฏิเสธ ถ้าเขาตอบรับก็ดี  หรือหากไม่ก็ไม่ได้เสียหายอะไร

การถูกปฏิเสธไม่มีผลทำให้เราเสียหายหรือดูด้อยค่า

ฝ่ายชายตอบกลับไปว่า  “ผมเป็นมุสลิม และคุณล่ะนับถือศาสนาอะไร”

หญิงสาวตอบไปทันทีว่า  “ฉันไม่ไช่มุสลีมะห์”

“ถ้าเช่นนั้น เราแต่งงานไม่ได้หรอก” ชายหนุ่มตอบไปอย่างตรงไปตรงมา

“แล้วถ้าฉันเข้าศาสนาตามคุณ คุณจะยอมแต่งงานไหม   

“ตกลงครับ อินชาอัลเลาะห์”  ชายหนุ่มตอบไป

เวลาผ่านไป สาวสวยคนนี้ ได้ศึกษาในหลักการอิสลามจนเข้าใจอย่างถ่องแท้ จนมาเป็นมูอัลลัฟ แล้วแต่งงานกับชายหนุ่มคนนั้นตามที่ตกลง

หลังแต่งงานได้ไม่นาน หญิงสาวก็เปิดเผยถึงสถานะตนเอง  เธอเป็นผู้รับมรดกมหาศาลจากตระกูล เธอเป็นคนรวย 
และยังภักดีต่อสามี เสมือนหนึ่งหญิงสาวซอลีฮะห์พึงปฎิบัติ

ชายหนุ่มผู้ดูแลสายตาตนเอง รักษากริยามารยาท เฉกเช่นผู้ซอลิห์  ละจากทุกอย่างอันอาจจะนำมาซึ่งฟิตนะห์ บัดนี้อัลเลาะห์ได้ตอบแทนเขาแล้ว...


Motivation of Life.

Tuesday, May 24, 2016

คู่เรา




คำแนะนำ 13 ข้อต่อการมองชีวิตคู่

1.   เมื่อมองหาคู่
อย่าคิดหาคนที่จะมาเป็นภรรยา แต่ให้มองหาคนที่เป็นแม่เพื่อลูกของเรา และเช่นกัน  อย่าคิดหาสามี แต่ขอคนที่จะมาเป็นพ่อให้ลูก

2. ขั้นการสู่ขอ
อย่าคิดว่าคุณกำลังขอจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองของเธอ แต่ขอจากอัลลอฮฺเพียงแต่ผ่านพ่อแม่ของเธอ

3. เมื่อถึงขั้นนิกาห์
ทั้งสองคนไม่ได้นิกาห์ต่อหน้าอีหม่าม & วาลี แต่การแต่งงานด้วยสำนึกว่าเราอยู่หน้า พระเจ้า สนองต่อความประสงค์ของพระองค์ โดยมีมาลาอีกะห์ ร่วมเป็นสักขีพยาน

4. เมื่อการจัดเลี้ยง
คำนวณถึงแขกที่มา บันทึกไว้ และตระหนักเสมอว่า ทุกคนที่มาคือคนที่ให้ความสำคัญกับเรา เขาไม่ได้มาตัวเปล่า สิ่งที่มีค่าที่สุดจากเขาที่ให้เราคือ การดุอาอ และคำอวยพร ตระหนักเสมอว่า ยามใด คิดจะเลิกลากันไป แสดงว่าคุณได้ละเลยต่อคำอวยพรของเขาแล้ว พวกเขาล้วนให้ความสำคัญต่อคุณ  เหตุไฉนคุณถึงละเลยจากอวยพรของเขา. ฉนั้นกรุณายุติความคิดเช่นนั้นเสีย

5. เมื่อคืนแรก
อดทนอย่ารีบร้อนตระหนักเสมอว่าทั้งสองฝ่ายก็คือลูกหลานมนุษย์ด้วยกัน หาไช่บุตรของมาลาอีกะห์ หรือผู้วิเศษที่ไหน

6. เมื่อการดำรงชีวิตครอบครัว
เส้นทางชีวิตจากนี้ หาได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หรืออยู่ในดงดอกไม้นานาพันธ์แต่อย่าใด หากแต่ต้องเผชิญกับอีกสารพัดอุปสรรคและขวากหนาม จงก้าวเดินต่อไปข้างหน้า อย่าได้พลัดพรากจากกัน.


7. เมื่อประสบกับปัญหาและความยุ่งเหยิง
จงจับมือสอดประสานกันให้แน่น อย่าให้หลุดไปเป็นอันขาด


8. เมื่อยังไม่ได้ลูก
อย่ารวนเร รักที่มีต้องมั่นคง อย่าหันเห ผูกพันด้วยใจมั่น  100 %


9. เมื่อได้ลูกแล้ว
ต้องรักภรรยาของคุณ/รักสามีคุณ 100 % และใน  100 % ของทั้งสอง ผสานร่วมมือกันเป็นอีก 100 % สำหรับลูก

10. เมื่อเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ
จงเชื่อมั่นเถิด ด้วยความจริงใจของคนในครอบครัว และความไว้วางใจกัน จะเป็นประตูที่เปิดกว้างสำหรับปัจจัยยังชีพ

11. เมื่อยามเศรษฐกิจและการเงินมั่งคั่ง
อย่าลืมช่วงชีวิตที่ผ่านมา ที่ได้ร่วมกันเผชิญทั้งร้อนทั้งหนาวอย่างไม่หวาดหวั่น

12. เมื่อคุณอยู่ในฐานะสามี
คุณสามารถแสดงออกถึงการออดอ้อนต่อภรรยา  แต่อย่าลืม จงลุกขึ้นทันทีเมื่อใดก็ตาม ที่ภารกิจ เบื้องหน้า ในความรับผิดชอบต่อผู้เป็นภรรยาเมื่อเธอประสงค์ใดๆ จากคุณ

13. เมื่อคุณเป็นภรรยา
ร่วมเดินหน้าฟันฝ่าชีวิตกับเขาได้ในทุกสถานการณ์ ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม กับบุคลิกภาพที่อ่อนโยน แต่มี ใจที่เข้มแข็งและมั่นคง เป็นพลังหนุนเสริมต่อเขาได้ทุกเวลา.

Wednesday, May 18, 2016

คำแม่ในวันส่งเข้าห้องหอ

คำสั่งเสียของแม่ในโอกาสการแต่งงานของลูกสาว


วันนี้เจ้าต้องจากไปจากสถานเดิมๆ เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งชีวิตใหม่ ในบทบาทและหน้าที่ใหม่ ๆ  กับคนอื่น  ที่เขาไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมดของเรา  และเราก็ไช่ว่าจะเข้าใจเขาได้ทุกเรื่อง

เจ้าอย่าลืม 13 ข้อต่อไปนี้
1.ร่วมชีวิตกับสามีเจ้าด้วยความตระหนักในหลักแห่งความพอเพียง ความพอมีและพอดี

2.จงเชื่อฟังและซื่อสัตย์ต่อสามี

3.จงดูแลจมูก ด้วยการระวังกับกลิ่นอันไม่พีงประสงค์ น้ำหอมคือสิ่งที่ต้องมีใช้เป็นประจำ

4.คำนึงถึงสายตาเขา เมื่อใดที่เขาได้มองเราแล้วก่อเกิดความรู้สึกอิ่มใจ การแต่งตัวในบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

5.อย่าลืมเวลากิน การกินไม่พอก่อให้เกิดอารมณ์ที่ขุ่นมัว

6.ใส่ใจเวลานอน การนอนไม่เต็มที่ เป็นบ่อเกิดแห่งอารมณ์และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

7.ต้องเคารพและให้เกียรติครอบครัวเขา

8.ร่วมดูแลทรัพย์สมบัติเขา  การรู้จักหวงแหนทรัพย์สมบัติเขา  แน่นอนว่าเขาจะหวงแหนเรา

9.อย่าแพร่งพรายความลับใดๆ ชองเขา การรู้จักให้เกียรติในตัวตนของเขา  เขาก็จะให้เกียรติเรา

10.อย่าละเลยในคำร้องขอของเขา เพราะการละเลยก่อให้เกิดความขุ่นเคืองใจ

11.อย่าสุขในช่วงเวลาที่เขาเศร้า  เพราะจะถูกมองว่าไม่ใส่ใจกัน

12.อย่าไปแสดงอาการเศร้าในขณะที่เขามีความสุข เพราะจะถูกมองว่าไปขัดขวางวิถีที่ดีงามของเขา

13.พยายามแสดงออกให้บ่อยๆ ถึงความรัก ความเคารพ ความใส่ใจ มุ่งมั่นดูแลกันตราบวันสิ้นสลาย.

Monday, May 09, 2016

การแต่งงานสุดประหยัด


จุดเริ่มต้นในการนำมาซึ่งการเป็นคู่ชีวิตต้อง ...

อย่าเริ่มที่ทรัพย์สิน 

อย่าแสดงความยิ่งใหญ่ของงานเพื่อให้คนมายกย่อง

อย่าทำพิธีให้หรูหรา จนอาจจะเป็นหนี้ที่รุงรัง

อย่าสร้างความยุ่งยากจนกลายมาเป็นอุปสรรค

การกำหนดค่าใช้จ่ายที่สูง ด้วยค่านิยมเกทับ คนข้างบ้าน ไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่าชีวิตคู่จะยั่งยืน

พบข่าวการแต่งงานสุดประหยัดในประเทศเพื่อนบ้าน

ฝ่ายชายมีชื่อว่ามูฮัมมัด ฟาดิล ฝ่ายเจ้าสาวมีนามว่าสีตีนูรอัสลีน ซาลีม

ฝ่ายชายบอกว่าการแต่งงานของตนเองมีค่าใช้จ่ายรวมแล้วราว 2 ล้านรูเปียห์อินโด หรือประมาณ 7,000 กว่าบาท (1000 rp ประมาณ 280 บาท)

โดยแยกเป็นค่าสำหรับมะฮัร 3 แสนรูเปียห์ (ราว 1,071 บาท)

เงินมอบให้เจ้าหน้าที่  7 แสนรูเปียห์ (ราว 2,500 บาท)

และอีก 1 ล้านรูเปียห์ ใช้สำหรับเลี้ยงแขกและเพื่อนใกล้ชิด




ทั้งคู่ไม่ไช่ไม่ไช่คนยากจน หากแต่เข้าข่ายผู้มีฐานะ แต่ที่ใช้อย่างประหยัด ด้วยความเชื่อว่า การมีบัรกัต (ความจำเริญ) ในชีวิตคู่ ไม่ไช่อยู่ที่สินสอดจำนวนมาก ไม่ได้อยู่ที่การจัดงานใหญ่โตแต่อย่างใด

เงินที่มีทั้งคู่เลือกที่จะนำมาใช้เพื่อเริ่มต้นชีวิตครอบครัว ดีกว่านำมาใช้ในวันแต่งงานแค่วันเดียว

ร่วมดุอาอ ให้ชีวิตคู่มีบัรกัต มีลูกหลานร่วมสืบสานเจตนารมย์ บรมศาสดา

Daud Abdulrahman

แหล่งข่าวอ้างอิง. : www.cerminan.com/

Thursday, May 05, 2016

อาซานแรก ณ กำแพงเมืองจีน


อาซานแรก ณ กำแพงเมืองจีน ผู้อาซานคือกลุ่มอาสาสมัครจากอังกฤษ ที่ออกเดินทางเพื่อระดมเงินบริจาคช่วยเหลือชาวกาซ่า (ฏ๊อซซะห์ ปาเลสไตน์)

ข้อมูลจาก.www.jurnalmuslim.com