Monday, May 08, 2006

รักเรา รักตลอดไป

รักเรา รักตลอดไป

วันวาเลนไทน์ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับอิสลาม และเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเลยที่มีพวกเราบางคนไปให้ความสำคัญกับวันนั้น

พูดถึงเรื่องของความรัก อิสลามได้สอนให้เรามีความรักต่อเพื่อนมนุษย์ทุก ๆ คน แต่ความรักในระหว่างเพศนั้น จำเป็นและจะต้องผ่านช่องทางที่ถูกต้องเท่านั้น หลักซารีอะห์ได้กำหนดเรื่องนี้ไว้แล้วอย่างชัดเจนรักเรา (มุสลิม) จะไม่มีการชักนำไปสู่ความชั่วร้าย หรือสนองกิเลศตัณหาใดๆ

ในอิสลามได้แบ่งความรักออกเป็น 3 ประเภท
1. ความรักของคอลิก (ผู้สร้าง-อัลเลาะห์) ต่อมัคลูก (ผู้ถูกสร้าง-มนุษย์)
2. ความรักของมนุษย์ต่ออัลเลาะห์ (มัคลูก-คอลิก)
3. ความรักของมนุษย์ที่มีต่อมนุษย์ด้วยกัน
มีหลายอายัตในอัลกุรอาน และมีหลายตอนในอัลฮาดิษ ที่กล่าวถึงเรื่องนี้ จากซูเราะห์อาลีอิมรอน อายะห์ที่ 103 อัลเลาะห์ได้กล่าว ความว่า “อัลเลาะห์ได้ผูกใจ (รวมเป็นหนึ่งด้วยนิอมัตแห่งอิสลาม) จนพวกเขาเหล่านั้น ด้วยนิอมัติ ของอัลเลาะห์เป็นมุสลิมที่เป็นเครือญาติกัน”

จากอายะห์นี้ (รวมทั้งอายะห์อื่นๆ ) เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า อัลเลาะห์ต้องการให้ เหล่าชนผู้ศรัทธาทั้งหลาย มีความรักและความปรองดองกัน ประหนึ่งเป็นพี่น้องกัน และทรงโกรธกริ้วต่อพฤติกรรมใด ๆ ที่สร้างแตกแยกและความชิงชังกันความรักที่เกิดขึ้นระหว่างมนุษย์ด้วยกัน มักจะไม่ยั่งยืน และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมรอบข้าง

แต่ความรักของมุอมินต่ออัลเลาะห์ ทั้งด้วยอีมาน ด้วยความตักวา และด้วยความรักของอัลเลาะห์ต่อบ่าวของพระองค์ นั้น มั่นคงตลอดไป
จากความหมายของอัลกุรอานตอนหนึ่ง “จงกล่าวเถิด (โอ้มูฮัมหมัด) ถ้าเจ้ารักอัลเลาะห์อย่างแท้จริง ก็จงตามเรา แน่นอนที่สุดว่า อัลเลาะห์รักพวกเจ้า และทรงให้อภัยโทษ จากความผิดบาปของเจ้า และ (จงจำไว้) อัลเลาะห์นั้น ทรงยิ่งในการให้อภัย และทรงยิ่งในการรอบรู้” (อาลีอิมรอน : 31)

คุณค่าของความรักนั้นสูงมาก อาบีฮูรัยเราะห์ กล่าวว่า ท่านรูซูลุลเลาะห์ ได้กล่าวว่า “ด้วยพระนามของอัลเลาะห์ ที่ชีวิตและจิตในฉันอยู่ในมือของพระองค์ พวกเจ้าจะไม่ได้ลิ้มรสของสวรรค์ เว้นเสียด้วยความศรัทธาและจะไม่มีความศรัทธานอกเสียจาก จะมีความรักต่อเพื่อนมนุษย์” ท่านรอซูลได้กล่าวอีกว่า “เจ้าชอบใหม่ถ้าฉันจะบอกวิธีการที่เมื่อใครปฏิบัติแล้ว จะสร้างความรักกัน? สิ่งนั้นก็คือ เจ้าจงนำสลามฝากให้กับผู้คนในหมู่พวกเจ้า”

สำหรับมุสลิมมีหลายวิธีการในการสร้างความรักและความปรองดองในระหว่างกัน เช่นการไปเยี่ยมเยียน (ซียาเราะห์) การฝากสลามและละเว้น จากการกระทำใด ๆ ที่จะกระทบความรู้สึกต่อกันและหากเราต้องการให้การพูดถึงความรักของเราให้ดูพิเศษมากขึ้น เราก็อาจจะหาช่วงตอนสำคัญ ๆ สำหรับชีวิต เช่นในวันที่สำเร็จการศึกษา วันที่ได้รับรางวัลสำคัญใด ๆ สำหรับชีวิต วันครบรอบปีของการแต่งงาน ฯลฯ ด้วยการจัดให้ จัดเลี้ยง หรือเยี่ยมเยียน

แต่อย่างไรก็ตาม มุสลิมไม่อาจจะตามรูปแบบการแสดงถึงความรัก ดังเช่นที่สังคมอื่นเป็นอยู่ เช่น การแสดงออกถึงความรักในวันวาเลนไทน์ ซึ่งนอกจากจะผิดหลักการแล้ว ความรักที่ถูกจำกัดเฉพาะเวลา เฉพาะโอกาส เฉพาะสถานที่ นั้น ไม่ได้ให้อะไรกับมนุษย์เลย

14 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่ ชาวตะวันตกกำหนดเป็นวันแห่งความรัก ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับเรื่องของนักบุญที่ชื่อว่า วาเลนไทน์ หรือวาเลนติโน ซึ่งถูกกษัตริย์ Cloudius 2 จับขังคุกจนเสียชีวิต เพราะละเมิดคำสั่ง ชาวคริสต์ จึงกำหนดให้วันนี้เป็นวันแห่งความรัก เพื่อเป็นการระลึกถึงนักบุญคนดังกล่าว
ในอิสลามไม่จำกัด เป็นการเฉพาะว่า ความรักจะเกิด จะมี หรือจะแสดงได้เฉพาะในวัน ใด ๆ แต่อิสลามให้เรามีความรัก ต่อเพื่อนมนุษย์ทุกคน ในทุกช่วงเวลา และความรักในอิสสลามจะต้องไม่นำไปสู่พฤติกรรมล่อแหลมในทางเพศ หรือความเสื่อมเสียทางศีลธรรมใด ๆ

เพราะนั้นไม่ใช่ความรักหากแต่เป็นเรื่อง มุงกัร เป็นเรื่องน่ารังเกียจ น่าละอายอย่างยิ่งเราต้องไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของความคิดแบบตะวันตก ที่มุ่งแต่กอบโกยความสุขเหนือศีลธรรมและจรรยาการนักพบปะ มอบดอกไม้ และออกไปไหนต่อไหนกันสองคน เหมือนดังที่เกิดขึ้นนี้ จะเป็นส่วนชักนำให้เกิดพฤติกรรมอื่นๆ ตามมา ซึ่งก็จะนำความเสื่อมเสีย และความตกต่ำทางศีลธรรมจนยากจะแก้ไขได้

เราจะต้องกลับหาค่านิยมในแบบอิสลามที่แท้จริง เพราะความรักในอิสลาม นั้น ยั่งยืนและยาวนาน ตลอดเวลา ไม่จำกัดเฉพาะวันใด หรือช่วงเวลาใด เวลาหนึ่ง

No comments: