Wednesday, August 30, 2006

สาระสุขภาพ (3)

อาหารอันตรายเมื่อท้องว่าง

คุณทราบไหมว่าเมื่อท้องของคุณว่างแล้วคุณรับประทานอาหารเข้าไป อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคุณได้ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะรับประทานอาหาร ควรเลือกชนิดของอาหารเสียก่อน อาหารที่ไม่ควรรับประทาน ขณะท้องว่างมีชนิดใดบ้าง มีบางชนิดที่เราแทบไม่เชื่อเลยล่ะ

กล้วย.. เพราะกล้วยอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม การรับประทานกล้วย ขณะท้องว่าง จะทำให้ปริมาณธาตุแมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้น ทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมไป เป็นการยับยั้ง การทำงานของหลอดเลือดหัวใจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างยิ่ง

กระเทียม.. เพราะจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหาร ได้รับการกระตุ้นเกิด โรคกระเพาะอาหารอักเสบอย่างรุนแรง

ผัก.. การรับประทานผักอย่างเดียวขณะท้องว่าง จะทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการผิดปรกติ นอกจากนั้น ยังไม่ควรอาบน้ำ และออกกำลังกายด้วยเช่นกัน เพราะการอาบน้ำและการออกกำลังกาย ในขณะที่ท้องว่าง จะทำให้เกิดอาการช็อก เนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย

นมและนมถั่วเหลือง.. แม้ว่านมถั่วเหลืองจะอุดมไปด้วยโปรตีน แต่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อกระเพาะอาหาร มีสารอาหารประเภทแป้งอยู่ด้วย

น้ำตาลหรืออาหารหวาน... ไม่ควรรับประทานอาหารหวาน หรือน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ช็อกโกแลต เพราะหากรับประทานขณะท้องว่าง จะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาลส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิด
และลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไต

ชา...ที่แก่เกินไป ช าทำให้กรดเกลือในน้ำย่อย ในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การทำงาน ของระบบย่อยอาหารลดลง และเกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะ มือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบ

ลูกพลับ.. ไม่ควรรับประทานลูกพลับในขณะที่ท้องว่าง เพราะกระเพาะอาหารจะหลั่งกรดเกลือออกมามาก หากไปรวมตัวกับยาง และสารแขวนลอยในลูกพลับแล้วจะทำให้เจ็บหน้าอก คลื่นไส้ และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร



ไอศกรีม อาหารขยะ
ไอศกรีมบางยี่ห้อ บางผู้ผลิต ใช้ไขมันที่เหลือจากโรงฆ่าสัตว์ แทน และได้ใส่ส่วนผสมสังเคราะห์ จากสารเคมีต่าง ๆ ดังนี้
1. ไดอิธิลกลูคอล ( diethyl glucol )..สารเคมีราคาถูก ใช้ตีไขมัน ให้กระจาย แทนการใช้ ่ไข่ เป็นสารกันเยือกแข็ง ที่ใช้กันน้ำแข็ง ( anti freeze) และผสมในน้ำยากัดสี
2. อัลดีไฮด์ - ซี71 ( aldehyde-C71 ).. ใช้สร้างกลิ่น เชอร์รี่ ให้ไอศกรีมเป็นของเหลวติดไฟง่าย และยังนำไปใช้ทำสีอะนิลีน พลาสติกและยาง
3. ไปเปอร์โอรัล ( piperoral )..ใช้แทนวานิลลา เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าเหาและหมัด
4. อิธิลอะซีเตท (ethyl acetate ).. ใช้สร้างกลิ่นรสสับปะรด ใช้เป็นตัวทำความสะอาดหนังและผ้าทอ กลิ่นของสารเคมีตัวนี้ ทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง ตับ และหัวใจผิดปกติ
5. บิวธีรัลดีไฮด์ ( butyraldehyde) ใช้สร้างกลิ่นรสเมล็ดในผล ไม้เปลือกแข็ง เป็นสารประกอบสำคัญในกาวยาง
6. แอนนิล อะซีเตท( anyle acetate) ใช้สร้างกลิ่นรสกล้วยหอม เป็นสารทำลายใช้ล้างไขมัน
7. เบนซิล อะซีเตท(benzyle acetate) ใช้สร้างกลิ่นและรสสตรอเบอร์รี่ เป็นสารละลายไนเตรทเวลาเกิดความอยากอยากให้คิดถึงสารเคมีเหล่านี้ ทั้งสารกันเยือกแข็ง ตัวทำละลายน้ำมัน น้ำยาลอกสี ยาฆ่าเหา ยาฆ่าหมัด บางยี่ห้อมีตัวนั้น บ้างมี ตัวนี้ ไมใช ่ว่าทุกยี่ห้อ จะมีหมด ทุกตัว นะครับ นอกจากนี้สารที่ใช้ทำความหวานก็คือ แซคคาริน หรือน้ำตาลเทียม ทั้งมีสารเติมสีเติมกลิ่น ซึ่งเหล่านี้ล้วนพิสูจน์แล้วว่า มีส่วนสนับสนุนทำให้เกิดมะเร็งได้ ไอศกรีม อาหารขยะ เป็นสาเหตุโรคอาหารเป็นพิษ ถึง 98 เปอร์เซ็นต์
อย่าลืมนะครับ จะซื้ออะไรดูสักนิดเช่น

น้ำมันพืช.. มีสาร กันหืน BTH หรือเปล่า ซีอิ้ว น้ำปลา แมกก..ี้ มี สารกัน บูด (โซเดียมเบนโซเอท) หรือผงชูรส (โมโนโซเดียมกลูตาเมท) หรือไม่

ขนมปัง.. ขาวมีสารกันเสีย สารกันบูดไหม
หรืออาหารใดๆ.. ก็แล้วแต่ แวะอ่านดูฉลากสักนิด ว่า มีผงชูรส มีวัตถุกันเสีย เจือสีสังเคราะห์ แต่งกลิ่น แต่งรส หรือเปล่า แม้ อย.อนุญาตก็ตามเถอะ

ที่มา : http://www.rapidreply.net/cgi-bin/varpro/vartrack.cgi?t=mysuccess:23

No comments: