Monday, June 26, 2006

ครอบครัวสุขสันติ์


ครอบครัวซากีนะห์


ครอบครัวสุขสันต์ ใครบ้างล่ะที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นจริงในชีวิตของตนเอง. ต่อไปนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่งที่ทั้งเขาและเธอดำรงชีวิตครอบครัวที่เปี่ยมด้วยความรัก ทั้งคู่ปรารถนาสร้างครอบครัวภายใต้ร่มเงาแห่งทางนำจากอัลเลาะห์ตะอาลา...

*****
คิดถึงวันนั้นทีไร ผมรู้สึกปลื้มใจ และมีความสุขมากจนสุดที่จะสรรหาถ้อยคำใด ๆ มาบอกกล่าวให้ใครๆ ได้เข้าใจ ทุกอย่างก็อัลฮัมดูลิลลาห์ พิธีการแห่งการอิญาบและกอบูลที่ดำเนินไปท่ามกลางความปลื้มปิติจนสุดที่จะพรรณนาใด ๆ ได้ ความสุขที่มีนี้ทำให้ผมไม่ลืมในการ “ซูโกร” ด้วยการลุกขึ้นแสดงความภักดีต่ออัลเลาะห์ในทุก 3 ช่วงหลังของทุกค่ำคืน

ทุกคืนวันที่ผ่านไปในชีวิตครอบครัวของเราทุกอย่างเป็นไปด้วยความห่วงใย ห่วงหา และเอื้ออาทรต่อกัน. ผมคาดคิดไม่ถึงเลยว่าอัลเลาะห์จะมีความกรุณาและปราณีต่อผมขนาดนี้ โดยการประทานคู่ชีวิตที่ดีมาก ๆ เช่นนี้มาให้. เธอคอยย้ำเตือนให้ผมแสดงความภักดีต่ออัลเลาะห์ตลอดเวลา ทุกครั้งเมื่อถึงเวลาละหมาดจะมีเธอนี่แหละที่คอยบอกกึ่งบังคับให้ต้องทำในทันทีทันใด โดยมิอาจจะละเลยใดๆ ได้ ใบหน้าของเธอที่อิ่มเอิบด้วยพลังแห่งอีมาน ทำให้ผมมิอาจจะขัดขืนใด ๆ ได้

ที่ดียิ่งกว่านั้น ผมรู้สึกปลื้มใจมาก ในทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้านไปทำงาน ต้องจากเธอไป ไม่ว่าเวลาไปหรือเวลากลับ เธอจะยิ้มระรื่นให้กับผมโดยตลอด เธอจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นให้สลามกับผมทุกครั้ง จนถึงวันนี้ ยังไม่มีโอกาสแม้ซักครั้งเดียว ที่ผมจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นในการให้สลาม ซุบฮานัลเลาะห์

แม้ว่าเธอจะมีอายุมากกว่าผม 2 ปี แต่ไม่เคยแม้ซักครั้งเดียวที่เธอจะแสดงถึงความเหนือกว่า ทั้งทางคำพูดหรือการกระทำ วาจาของเธอที่อ่อนโยน และท่าทีที่สุภาพ ทุกอย่างเป็นไปอย่างธรรมชาติ โดยไม่มีการปรุงแต่งใด ๆ

มีครั้งหนึ่งที่ผมลองให้เธอโกหกด้วยการบอกให้คนที่มาหาผมที่บ้านว่า ผมไม่อยู่ ปรากฏว่าเธอร้องให้ และไม่ยอมทำตาม “ฉันจะเป็นภรรยาของชาวสวรรค์ จะไม่ทำตามในความไม่ถูกต้อง”

ด้วยความกลัวเธอจะเสียความรู้สึก ผมจึงบอกว่า “แค่อยากลองใจเธอเท่านั้น” แล้วเราต่างก็หัวเราะครื้นเครง

บัดนี้เป็นที่ประจักษ์แก่ผมแล้วว่า วจนะของท่านศาสดานั้น แน่แท้ที่สุด ไม่มีข้อกังขาใด ๆ ทั้งสิ้น จากที่ท่านรอซูล ฯ ได้กล่าวว่า “โลกนี้ เป็นเพียงแค่ความสุขชั่วคราว และไม่มีความสุขอื่นใด ในโลกนี้ ที่จะดียิ่งไปกว่าการมีภรรยาที่ซอลีหะฮ์ (อันนาซาอี และอิบนูมาญะห์)

วันและคืนของชีวิตครอบครัวผมผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงวันนี้แทบไม่น่าเชื่อว่าผ่านไป 6 เดือนแล้ว มาซาอัลเลาะห์...

คืนหนึ่ง หลังจากนอนหลับสนิท ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงเธอร้องให้อย่างสะอึกสะอื่น ผมข้องใจมากเหตุไฉนเธอจึงต้องมาร้องให้ในตอนดึกดื่นและค่อนคืนเช่นนี้ ผมเข้าไปถาม เธอก้มหน้านิ่งไม่ตอบคำถามผม และยังคงร้องให้ไม่หยุด
ผมจึงเข้าไปใกล้และกอดเธอ ลูบไล้เส้นผมเบาๆ . ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ร่วมชีวิตกันมา บ่อยครั้งที่ผมเห็นเธอตื่นขึ้นมาละหมาดตะฮัจญุดในยามค่ำคืน แต่ไม่เคยมีครั้งไหน ที่ผมเห็นเธอร้องให้ เหมือนกับครั้งนี้ ผมจึงถามเธออีกครั้ง เธอก็ยังร้องให้และไม่ยอมคำถามผม

ผมพยายามคาดคั้นและจะรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาของผม สุดท้ายเธอก็ยอมบอก

อัสตัฆฟีรุลเลาะห์... อัลฮัมดูลิลลาห์ กับคำตอบของเธอผมตกใจ แต่ก็รู้สึกสุขใจอย่างยิ่ง เมื่อได้รู้ถึงเหตุที่ทำให้เธอต้องร้องให้ เธอท้องแล้ว 3 เดือน และคืนนี้เธอรู้สึกอยากกินบะหมี่ซุปไก่ อาหารโปรดของเธอ อยากกินมาก ๆ จนทนไม่ไหว เธอบอกว่าจะปลุกให้ผมไปหามาก็คงลำบากแล้วในช่วงดึกดื่นเช่นนี้ ประกอบกับบ้านก็อยู่ในชนบท

เมื่อได้ยินคำพูดของภรรยาสุดที่รักเช่นนี้ ผมไม่รอช้าแต่งตัวเข้าเมืองเพื่อไปหาอาหารจานโปรดของภรรยาให้ได้ แม้จะคิดอยู่แล้วว่า ร้านต่างๆ คงปิดหมดแล้ว

ก็เป็นดังคาด ทุกร้านปิดหมด ผมคิดในใจว่ายังไงๆ ก็ต้องหามาให้ได้ จึงไปที่ร้านหนึ่ง และเรียกเจ้าของร้านซึ่งก็คงหลับสนิทแล้ว ผมบอกถึงความประสงค์ แรกๆ เจ้าของร้านไม่ยอมขาย และไม่ยอมเปิดประตู ผมก็ร้องขออีก และแจ้งถึงเหตุผลที่ต้องขอซื้อ เมื่อรู้ถึงเหตุผลเจ้าของร้านก็ยอมออกมาเปิดบ้าน และเข้าโรงครัวทำให้ผมอย่างดีเลย

เมื่อทำเสร็จ เขาก็ออกมาให้ผม ผมจ่ายเงินให้ ปรากฏว่าเจ้าของร้านยิ้มให้ผมและไม่ยอมรับเงิน และบอกว่า “เก็บเงินนี้ไว้เพื่อเป็นของขวัญให้กับลูกของคุณ”

ก่อนออกจากร้าน เจ้าของร้านพูดทิ้งท้ายกับผมว่า “คืนนี้ผมเห็นคุณมีความสุขมาก ผมก็มีความสุขอีกเช่นกันที่ได้ช่วยเหลือคุณ แท้จริงแล้วการตอบแทนจากอัลเลาะห์ก็คือสิ่งที่ผมคำนึงถึงมากกว่า”
กลับถึงบ้าน ผมก็เล่าทุกอย่างให้ภรรยาฟัง เธอกล่าวตอบด้วยอัลฮัมดูลิลลาห์ และย้ำว่า “อัลเลาะห์ทรงรักเรามาก เราจึงต้องซูโกรต่ออัลเลาะห์ให้มาก ๆ แท้จริงแล้วอัลเลาะห์จะทรงตอบแทนด้วยผลบุญมากมายเป็นทวีคูณทั้งสิ่งดีที่เราได้กระทำไป และสิ่งที่เจ้าของร้านได้ช่วยเหลือเราในคืนนี้”

และเราก็ร่วมละหมาดซูโกรต่อเอกองค์อัลเลาะห์….

2 comments:

Unknown said...

ซึ้งมั๊กๆๆ

Unknown said...

อัสลามูอาลัยกุมฯ ค่ะ....
ได้อ่านเรื่องราวของคุณ ซาบซึ้งมากค่ะ เป็นหนทางของความรักที่อยู่ในแนวทาง อ่านแล้วอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามและขอดุอาร์ให้คนทั้งสองไปด้วยค่ะ อินชาอัลลอฮฺ

ก่อนหน้านี้หากไม่ได้เกิดเหตุการณ์บางอย่าง ก้คงจะไม่ได้รู้จักว่าความรักที่อยู๋ในหนทางที่ดีงาม ได้มอบความรักให้กับคนที่มีศาสนาในหัวใจ สามารถเป็นผู้นำทางให้เป็นเช่นไร เรื่องราวของคุณอาจจะเป็นอนาคตอันใกล้ของข้าพเจ้านะคะ อินชาอัลลอฮฺ ขอให้มันกลายเป็นจริงได้ด้วยเถิด อามีน.....
รักษาความดีเอาไว้นะคะ ใช้ชีวิตชั่วคราวบนนี้ให้คุ้มค่า แล้วหวังว่าเราคงมีเสบียงที่เพียงพอในโลกหน้ากันทุกคน อามีน....