มุสลิมทุกคนควรตระหนักในการจ่ายเงินหรือสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตให้กับผู้อื่น สิ่งนี้มุสลิมส่วนใหญ่รู้ แต่ในการปฏิบัติทุกวันนี้เป็นอย่างไร สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของหลักการหรือไม่ คือสิ่งที่ต้องมาใคร่ครวญกัน อย่างน้อยก็ดังโจทย์ต่อไปนี้
โจทย์ที่ 1
ซะกาตฟิฎเราะห์คืออะไร และใครบ้างที่ต้องจ่าย
ซะกาตด้านภาษาบ่งชี้ถึง
การเจริญเติบโต งอกเงย เพิ่มพูน ขัดเกลาให้สะอาด และความประเสริฐ
ส่วนคำว่า ฟิฏรฺ หรือฟิฏเราะฮฺ ด้านภาษาหมายถึง
การเปิดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือทำให้แตกและแยกออก
ซะกาตฟิฏเราะฮฺ
หมายถึง การบริจาคทานที่ถูกกำหนดให้มุสลิมทุกคนต้องจ่าย เนื่องจากการสิ้นสุดของการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
เพื่อเป็นการขัดเกลาผู้ถือศีลอดให้สะอาดบริสุทธิ์จากความหลงลืมและการพูดที่โสมม
ในอีกความหมายหนึ่ง ซะกาตฟิฏเราะฮฺ
คือซะกาตแห่งตัวตนหรือซะกาตแห่งชีวิต เพราะมุสลิมทุกคนต้องจ่าย ทั้งชาย-หญิง
ทั้งเด็กแรกเกิดจนถึงคนแก่เฒ่า
หรือแม้แต่คนสติไม่สมประกอบ
อาบีฮูรัยเราะห์ ได้กล่าว ความว่า
“ท่านศาสดาได้วายิบ (บังคับ)
ให้จ่ายซะกาตฟิฎเราะห์
ในเดือนรอมฎอนทั้งในหมู่ผู้เป็นไท เป็นทาส ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็กแรกเกิด คนแก่ คนรวยและคนจน
ในบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย” ( อะห์มัด, บุคอรี และมุสลิม )
ผู้ปกครอง/ คนที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขา
เป็นคนจ่าย
ท่านศาสดากล่าวว่า
“จงจ่ายซะกาตฟิฏเราะฮฺ จากทุกคนที่เป็นผู้รับผิดชอบของท่านทั้งหลาย”
(บัยฮากี)
โจทย์ที่ 2
ลูกบุญธรรม เด็กกำพร้า ลูกเลี้ยง ใครจ่ายให้
?
เป็นภาระและความรับผิดชอบของผู้ปกครอง / ผู้ดูแล
ในที่นี้ก็หมายถึงญาติทางสายเลือด
หรือผู้รับผิดชอบโดยตรงต่อเด็ก ๆ
เหล่านั้น ซึ่งก็คือ พ่อ ปู ลุง .
กรณีลูกบุญธรรมที่ไม่พบญาติทางสายเลือด ผู้รับผิดชอบในการเลี้ยงดู
ซึ่งก็คือพ่อบุญธรรมที่จะต้องจ่ายให้
กรณีเด็กกำพร้า
ถ้าไม่มีหรือไม่พบญาติทางสายเลือด
ผู้ดูแลก็ต้องรับภาระในการจ่ายให้ เช่น
เดียวกับกรณีลูกเลี้ยง ถ้าไม่ปรากฏญาติทางสายเลือด
พ่อเลี้ยงก็ต้องรับภาระในการจ่ายให้
กรณีเด็กสามารถหารายได้ ได้ด้วยตัวเอง ก็ควรส่งเสริมให้เด็กได้ฝึกในการจ่าย แต่ภาระที่แท้จริงก็ยังเป็นของผู้ปกครอง หรือผู้เป็นญาติเหนือขึ้นไปทางสายเลือด
โจทย์ที่
3 ลูกสาวที่ทำงานมีรายได้ของตนเองยังคงเป็นภาระของผู้ปกครองหรือไม่ ?
คนที่สามารถทำงานหาเงินได้ด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาก็ควรจ่ายซะกาตเอง และสามารถจ่ายซะกาตเพื่อพ่อแม่ได้ด้วย ทั้งนี้ก็ต้องบอกให้พ่อแม่ได้รู้ด้วย
โจทย์ที่ 4
ต้องจ่ายซะกาตเวลาไหน
เริ่มต้นรอมฎอนก็สามารถจ่ายซะกาตได้ ดังที่ฮาดิษจากอูมัรที่ได้กล่าวว่า “ท่านศาสดาได้บังคับให้จ่ายซะกาตในเดือนรอมฎอน”
อย่างไรก็ตามก็มีข้อขัดแย้งทางความคิดของเหล่าผู้รู้ที่เกี่ยวกับเวลาที่วาญิบ
อีหม่ามซาฟิอี และ อีหม่ามมาลิก เห็นว่า
เวลาที่ต้องจ่ายก็คือ
เวลาแสงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนได้สิ้นสุดลง ในขณะที่อีหม่ามฮานีฟะห์ เห็นว่า บังคับให้ต้องจ่ายหลังจากที่แสงแรกของเดือนเซาวาลได้ออกมา
แต่เพื่อง่ายในการปฏิบัติ นักการศาสนาส่วนหนึ่งได้แบ่งเวลาดังนี้
1.
สามารถจ่ายได้ทันทีหลังเข้าสู่รอมฎอน
2.
เวลาที่ดีที่สุดก็คือก่อนละหมาดอีดิลฟิฎรี
3.
ไม่อนุญาตให้จ่ายซะกาตฟิฎเราะห์หลังจากเลยเวลาที่ถูกกำหนดไว้
หรือหลังจากละหมาดอีดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ผู้ใดจ่ายซะกาตฟิฏเราะฮฺ
หลังละหมาดอีด จะถือว่าซะกาตที่ได้จ่ายไปนั้นเป็นซะกาตทั่วๆไป ไม่ใช่ซะกาตฟิฏเราะฮฺ
โจทย์ที่ 5
ถ้าลืมจ่ายล่ะจะต้องทำไง ?
การจ่ายซะกาตเป็นภาระสำคัญของมุสลิม ในการรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งไม่ควรที่จะลืม
ผู้ที่ลืมมักจะเกิดจากการถ่วงเวลารอจ่ายในช่วงท้าย ๆ ซึ่งก็มีผู้บอกว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุด ได้บุญมากที่สุด ผมเห็นว่าการได้บุญ
จะมากหรือน้อยเป็นเรื่องของอัลเลาะห์ ส่วนที่เป็นเรื่องของเราก็คือต้องจ่ายตามช่วง
เวลาที่กำหนด
คนที่ลืมเมื่อนึกขึ้นได้ก็ต้องรีบหาคนที่มีสิทธิรับและจ่ายให้ทันที พร้อมทั้งขอเตาบัต (ขอลุแก่โทษ ) พร้อมตั้งจิตให้มั่นว่าจะไม่ลงลืมกับภาระเช่นนี้อีก
โจทย์ที่ 6
ถือศีลอดไม่ขาดแต่ไม่ยอมจ่ายซะกาต
การถือศีลอดเป็นสิ่งที่ต้องทำ (วาญิบ)
การจ่ายซะกาตเป็นสิ่งที่ต้องจ่ายเช่นกัน การละเลยสิ่งใดสิ่งหนึ่งถือเป็นบาป
อิบนูอูมัรได้กล่าวว่า “ท่านศาสดาได้สั่งให้เราจ่ายซะกาตฟิฏเราะฮฺ ก่อนที่ผู้คนจะออกมาละหมาด
อีดิลฟิฎรี” (บูคอรีและมุสลิม)
เหล่าผู้รู้ได้ให้ความเห็นว่าคนที่ตั้งใจไม่จ่าย และไม่ถือเป็นวาญิบสำหรับตนเองเขาอาจจะตกอยู่ในฐานะกูฟูร
/ สิ้นสภาพ
โจทย์ที่ 7
คนยากจนต้องจ่ายซะกาตด้วยหรือ ?
ซะกาตฟิฏเราะฮฺ ถูกบังคับสำหรับมุสลิมทุกคนไม่ว่าเขาจะอยู่ในฐานะใด ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าเขาต้องมีอาหารเพียงพอในการรับประทานนับจากคืนอีด (1 เชาวัล)
จนถึงสิ้นวันอีด คนที่อยู่นอกเงื่อนไขนี้จะต้องจ่ายทุกคน
แต่ก็มีบางทัศนะเห็นว่าคนยากจนที่ดำรงชีวิตอยู่ได้ก็ด้วยเงินซะกาต เขาไม่ต้องรับภาระในการจ่ายอีก เพราะเงินที่เขามีก็เงินซะกาตนั้นเอง
โจทย์ที่ 8
จ่ายซะกาตฟิฏเราะฮฺ ด้วยเงินหรือด้วยข้าวสาร
?
แต่เดิมซะกาตฟิฏเราะฮฺ คือการจ่ายด้วยอาหารหลัก แต่ก็มีทัศนะบอกว่าจ่ายแทนด้วยเงินก็ได้ การจ่ายด้วยเงินก็เป็นการตัดสินใจของอูมัร อับดุลอาซิซ ท่านได้บอกว่าการจ่ายซะกาตฟิฏเราะฮฺ สามารถทดแทนได้ด้วยสิ่งมีค่า (เงิน)
ทุกวันนี้เงินถูกใช้เพื่อชำระหนี้ /เพื่อการแลกเปลี่ยน อาหาร/ สิ่งของ เงินจึงถือว่าสมควร
อย่างไรก็ตาม อุละมาอ์ส่วนใหญ่ (มัซฮับมาลิกีย์
ชาฟิอีย์ และฮัมบาลีย์) ไม่อนุญาตให้จ่ายซะกาตฟิฏเราะฮฺ
ด้วยเงินแทนอาหาร และผู้ใดจ่ายซะกาตฟิฏเราะฮฺ ด้วยเงิน ซะกาตฟิฏเราะฮฺ ของเขาจะไม่ถูกรับ
เพราะไม่มีหลักฐานบ่งชี้ถึงการอนุญาต
ส่วนมัซฮับหะนะฟีย์ มีทัศนะว่าอนุญาตให้จ่ายซะกาตฟิฏเราะฮฺ
ด้วยเงิน
โจมย์ที่ 9
ถ้าไม่จ่ายซะกาตฟิฏเราะฮฺ ผลบุญจากการถือศีลอดถูกแขวน
?
ท่านศาสดาได้กล่าวว่า “ศาสนกิจในเดือนรอมฎอน
ถูกผูกไว้ระหว่างชั้นดินกับแผ่นฟ้า
และจะไม่ถูกนำไปสู่อัลเลาะห์ เว้นเสียแต่ด้วยซะกาตฟิฏเราะฮฺ” (
อิบนูอาซากีร)
แต่เหล่านักฮาดิษได้แสดงความกังขาต่อความถูกต้องของฮาดิษนี้ และแย้งกับฮาดิษอื่นที่ได้กำหนดอีบาดะห์เฉพาะต่าง ๆ
สำหรับเดือนรอมฎอน
ผมเห็นว่าอีบาดะห์อะไรก็แล้วแต่เมื่อได้ถูกกระทำอย่างสมบูรณ์และครบถ้วน ก็เป็นสิทธิของอัลเลาะห์ที่จะตอบรับหรือไม่ ?
โจทย์ที่ 10 ซะกาตฟิฏเราะฮฺ ต้องจ่ายให้คนยากจนเท่านั้นหรือ
เป็นความแตกต่างทางความคิด
(คิลาฟ) บ้างก็เห็นว่าเฉพาะสำหรับคนยากจนคนอนาถา (ฟากิร /มิสกิน )
แต่อีกส่วนก็เห็นว่าผู้มีสิทธิรับซะกาตทั้งแปดประเภทก็มีสิทธิรับซะกาตฟิฏเราะฮฺ เช่นกัน
นอกจากนี้ก็ยังมีความเห็นว่า สามารถจ่ายซะกาตฟิฏเราะฮฺ ให้กับคนต่างศาสนิกก็ได้ (ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอิสลาม) ในกรณีที่คนต่างศาสนิกนั้นมีฐานะยากจน
โจทย์ที่ 11
จ่ายซะกาตฟิตเราะห์แทนที่ลูกจ้างที่ทำงานในบ้านเราได้หรือไม่
ลูกจ้างไม่ใช่ภาระโดยตรงที่ต้องรับผิดชอบในการเลี้ยงดู ลูกจ้างคือคนทำงานที่ได้ค่าจ้าง ลูกจ้างต้องจ่ายซะกาตฟิฏเราะฮฺ ของตนเอง
แต่ถ้านายจ้างประสงค์ที่จะจ่ายให้ก็ไม่ผิดแต่เพียงต้องบอกให้ทราบ และต้องได้รับอนุญาตด้วย เพราะไม่ใช่สิทธิของนายจ้างโดยตรง
โจทย์ที่ 12 ลูกที่เกิดในคืนอีดิลฟิฎรีต้องจ่ายไหม่
ไม่ต้องเพราะวันอีดหรือกลางคืนถือว่าสิ้นสุดรอมฎอนแล้ว
โจทย์ที่ 13
หญิงตั้งท้องที่ครบกำหนดคลอดแล้ว แต่ยังไม่คลอดจนล่วงเลยวันที่ 1
เชาวัล
ในหนังสือ
ฮูกุมซะกาตของ ดร. ยุชุฟ ฎอร์ฎอวีย์
สรุปว่าไม่ต้องจ่ายเพระอิสลามไม่ได้สร้างภาระใดต่อลูกที่ยังอยู่ในท้องของมารดา
โจทย์ที่ 14
ซะกาตฟิตเราะห์กับซะกาตทรัพย์สินจ่ายในช่วงเวลาเดียวกัน
ไม่ผิดใดๆ
หากแต่เป็นสิ่งที่ส่งเสริมควรกระทำอย่างยิ่ง มีอาดิษรายงานจาก อิบนู คูชัยมะห์ จากชัลมาล อัลฟารีชี ระบุว่า ทุกอามัลทุกชนิดในเดือนรอมฎอน จะได้รับผลตอบแทนถึง 70
เท่า
โจทย์ที่ 15
ทำไหมบางคนต้องจ่ายซะกาตไม่เหมือนหรือไม่เท่ากับคนอื่น ๆ
คนที่ใส่ใจและระมัดระวังในการประกอบภารกิจทางศาสนา
เขาจะคำนึงถึงความถูกต้องเป็นหลัก ราคาข้าวสารแต่ละที่ หรือที่แต่ละคนได้บริโภคอาจต่างกัน คนที่คำนึงถึงความถูกต้องที่สุด
ย่อมคิดอย่างรอบคอบก่อนที่จะจ่ายไปจ่ายเท่าใด หรือจ่ายให้ใคร
No comments:
Post a Comment