Wednesday, August 15, 2012

ขออภัย






คุณค่าแห่งมาอัฟในอิดิลฟิตรี

มาอัฟ ซอฮิร และบาติน เป็นคำพูดที่มาคู่กับการต้อนรับอิดิลฟิตรี หรืออาจจะกล่าวได้ว่าวันอีด ดูจะไม่สมประกอบนัก หากไร้ซึ่งการขอมาอัฟ หรืออภัยในซึ่งกันและกัน

การขออภัยโทษในซึ่งกันและกันมีส่วนเกี่ยวโยงกับหลักการศาสนา ท่านศาสดาได้กล่าวว่า แท้จริงแล้วมุมินเมื่อได้พบกันจะต้องให้สลามและจับมือกัน ความผิดพลาดทั้งหลายจากคนทั้งสองก็จะร่วงหล่นเฉกเช่น ใบไม้ที่เหี่ยวแห้งร่วงหล่นจากต้น(รายงานโดยมุสลิม)

ปรัชญาและจิตวิญญาณแห่งเซาวาล
การเริ่มต้นของเดือนเซาวาลด้วยอิดิลฟิตรี อเป็นการเริ่มต้นแห่งความสันติสุข ทั้งในระดับครอบครัว การเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ตลอดจนในระหว่างเหล่าชนผู้ศรัทธาทั้งหลาย ไม่ว่าจะผู้ในสถานภาพใดทางสังคม ทุกคนจะร่วมกันต้อนรับอิดิลฟิตรีอย่างอิ่มเอิบ ทุกคนจะจับมือให้สลามต่อกัน และให้คำอวยพรด้วยถ้อยคำที่ดี ตลอดจนการขออภัยโทษในซึ่งกันและกัน

วันอิดิลฟิตรี ถือเป็นจังหวะเวลาที่ดีที่สุดแล้วในการลืมสิ้นซึ่งความขุ่นข้องหมองใจ เพราะไม่มีประโยชน์ใดๆ ที่จะมาถือโทษโกรธเคือง หรือผูกใจเจ็บต่อกัน

สวรรค์เป็นที่พำนักสำหรับบ่าวของอัลเลาะห์ ที่มีความรักใคร่และความเมตตาปราณีต่อกัน ด้วยเหตุนี้จงยื่นมือออกไปเพื่อสลามต่อกัน และขออภัยต่อเขาแม้ว่าในความเป็นจริงเราไม่ใช่คนผิดก็ตาม

ท่านศาสดาฯ ได้กล่าวต่อท่านอุกบะห์ บินอามีรว่า  โอ้ อุกบะห์ท่านอยากจะรู้มารยาทที่ดีที่สุดสำหรับชาวโลกดนยาและคนที่อยู่ในโลกอาคีรัตไหม  มารยาทนั้นก็คือท่านต้องให้อภัยต่อคนที่ได้รังแกท่าน อีกทั้งท่านได้ให้ความช่วยเหลือ หรือบริจาคทรัพย์สิน ต่อคนที่ได้ตัดขาดจากตัวท่าน  และท่านได้เชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนที่ได้ยุติความสัมพันธ์กับท่าน (รายงานโดยอัลฮากิม ในกีตาบอัลมุสตัดรอก)

คุณค่าของการให้อภัย
การขอมาอัฟไม่ได้หมายถึงการเป็นคนขี้ขลาดตาขาว แต่หมายถึงความยิ่งใหญ่ทางบุคลิกภาพ และกิริยามารยาท ท่านศาสดาได้กล่าวว่า  แท้จริงแล้วเมื่อคนมุมินสองคนได้พบกันและมีการจับมือสลามต่อกันเพื่ออัลเลาะห์ จะไม่มีการร่ำลากันระหว่างคนสองคนเว้นเสียแต่จะได้รับการอภัยโทษในความผิดบาปของเขา โดยอัลเลาะห์  (รายงานโดย อาบู ดาวุด)

ความเป็นพี่น้องกับอิดิลฟิตรี
วันอีดถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการเชื่อมสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องและผูกสัมพันธ์กับญาติมิตร  ท่านอับดุลเลาะห์บิน อับบาสได้กล่าวา จงรักษาวงศ์ตระกูลด้วยการดูแลและใส่ใจในระหว่างเครือญาติ
อิบนูอูมัร ได้ให้คำแนะนำว่า จงทำความรู้จักกับญาติพี่น้อง และจงเชื่อมความสัมพันธ์ในระหว่างกัน

ด้วยเหตูนี้เราทุกคนควรต้องละทิ้งภารกิจและความยุ่งเหยิงต่างๆ ส่วนตัว และหันมาติดต่อพูดคุยไต่ ถามสารทุกข์สุกดิบของพี่น้อง  จงออกไป เยี่ยมเยียม พวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้ที่สืบสายโลหิตทั้งฝ่ายบิดาหรือมารดา

ความสำคัญในการดูแลพี่น้อง
การดูแลความพี่น้องมีความสำคัญและสิ่งนี้เป็นคุณสมบัติหนึ่งของชาวสวรรค์ อาบูอายุบ อัลอันซอรี ได้กล่าวว่ามีชายคนหนึ่งได้มาพบกับท่านรอซูลลุลเลาะห์ และได้สอบถามถึงภารกิจที่ทำให้คนหนึ่งสามารถเป็นชาวสวรรค์ และภารกิจที่สามารถทำให้หลีกไกลจากไฟนรก ท่านศาสดาได้กล่าวตอบว่า ท่านต้องภักดีในอัลเลาะห์โดยไม่มีสิ่งใดๆ เป็นภาคี ท่านต้องละหมาด, ท่านต้องจ่ายซะกาตและท่านได้มีการเชื่อมสัมพันธ์ในหมู่พี่น้อง   (รายงานโดยบูคอรีและมุสลิม)

ก้าวสู่ความรัดรึงในคณาญาติ
การเยี่ยมเยียนที่มาพร้อมกับการมอบสิ่งของด้วยความบริสุทธ์ใจ เป็นสิ่งที่สามารถนำมาซึ่งความมั่นคงและรัดรึงอย่างแน่นแฟ้นในหมู่ญาติพี่น้อง การพาของกิน,หรือของใช้รวมทั้งการบริจาคทรัพย์สิน ถือเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ในระหว่างคณาญาติ  ท่านศาสดาได้กล่าวว่า  จงแลกเปลี่ยนของขวัญ หรือการบริจาค แน่นอนว่าท่านจะเป็นที่รักและสลายความเกลียดชังต่อกัน(รายงานโดยบัยฮากี)

            นอกจากนี้ท่านศาสดายังกล่าวอีกว่า  ใครที่สามารถนำามาซึ่งความสุขสันต์ภายในใจของคนในครอบครัว แน่นอนว่าอัลเลาะห์จะนำเขาสู่การเป็นส่วนหนึ่งของชาวสวรรค์ (รายงานโดยฎอบารอนี)

            ในส่วนของการบริจาคเงินให้กับเด็กๆ หรือผู้ยากไร้นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ให้เป็นสำคัญสิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหลักศาสนาและไม่ถือเป็นความจำเป็นเหมือนกับซะกาตฟิตเราะห์

            แต่การให้เงินเด็กๆ ก็ควรที่จะอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่ด้วย  เพราะหาไม่แล้วเด็กๆ อาจจะใช้เงินอย่างไม่ถูกต้อง เช่น มีการนำเงินไปซื้อลูกประทัด หรือของเล่นอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น เพราะสิ่งที่บริจาคในวันดีๆ ก็ควรที่จะถูกนำไปใช้เพื่อสิ่งที่เป็นความดีงาม

          เริ่มต้นเซาวัลอันมีเกียรติยิ่งนี้ จะเป็นการเริ่มต้นของสิ่งดีงามทั้งหลาย เป็นความสุขสดชื่นสำหรับเรา ไม่เฉพาะแต่วันนี้หากแต่สิ่งนี้จะคงมีอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป....

No comments: